21 พฤษภาคม 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Nang Nang” ได้โพสต์ข้อความระบายความอัดอั้นตันใจและขอความช่วยเหลือในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ขอนแก่น ร้องเรียนอะไรฝากไว้ที่นี่” ซึ่งเป็นกลุ่มสำหรับให้สมาชิกร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดขอนแก่น มีสมาชิกกว่า 60,000 คน โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “มีเรื่องกลุ้มใจมากเนื่องจากลูกชายอาละวาด ไปแจ้งความที่สภ. ตำรวจบอกว่าต้องรอตอนมันอาละวาดถึงไปจับได้ ถ่ายคลิปไว้ มันขู่จะฆ่าทำลายข้าวของ หรือจะต้องรอให้มันฆ่าให้ตายก่อนถึงจะออกมา ร้องเรียนที่ไหนอีกบ้างคะ ผู้รู้ช่วยตอบที” ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก มีทั้งตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ให้การช่วยเหลือ และผู้ที่เข้ามาให้คำแนะนำช่องทางในการช่วยเหลือ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้ที่โพสต์ข้อความดังกล่าว ทราบชื่อคือ นางเครือวัลย์ กิจโป้ง อายุ 56 ปี ชาวบ้านสาวะถี หมู่ 8 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ที่ลูกชายของตนเอง คือ นายวิศรุต วงษ์หาญ อายุ 33 ปี เมาอาละวาดเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ตนเองต้องไปขออาศัยอยู่กับญาติในหมู่บ้าน เพราะไม่กล้าอยู่บ้านกลัวว่าจะถูกทำร้าย เนื่องจากถูกลูกชายข่มขู่เอาชีวิต โดยก่อนหน้านี้ตนเองได้ไปขอความช่วยเหลือกับตำรวจ ที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เพื่อให้มานำตัวลูกชายไปควบคุมตัวและดำเนินการตามขั้นตอน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า จะต้องให้ลูกชายอาละวาดก่อน จึงจะสามารถไปควบคุมตัวได้ ทำให้ตนเองรู้สึกหมดหนทาง จึงตัดสินใจโพสต์ข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก
หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองขอนแก่น นำโดยนายวัลลภัฎร์ บำรุง ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปกครอง สมาชิก อส. และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านหลังดังกล่าว โดยมีนางเครือวัลย์ ผู้ร้องเรียนพาตรวจสอบ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้เรียกให้นายวิศรุต ซึ่งอยู่ภายในบ้านออกมาพบ ซึ่งนายวิศรุตก็เดินออกมาหาเจ้าหน้าที่ด้วยดี เจ้าหน้าที่จึงสอบถามถึงสาเหตุในการอาละวาดทำลายข้าวของในบ้าน และเรื่องข่มขู่ผู้เป็นแม่ รวมทั้งทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แต่ไม่พบว่ามีการเสพสารเสพติด ก่อนจะให้พาไปตรวจสอบภายในบ้านและห้องนอน ซึ่งพบว่า ภายในบ้านมีเศษกระจกและขวดแก้วตกแตกกระจายตามพื้นบ้าน ประตูห้องถูกฟันด้วยของมีคม ขณะที่ภายในห้องนอนอุปกรณ์เสพยาเสพติด รวมทั้งอาวุธมีดพก
- พยากรณ์อากาศวันนี้ เตือนภาคใต้-ตะวันออก เจอฝนตกหนัก
- โจรใต้วางระเบิดทหารพรานเจ็บ 4 นายที่สุไหงปาดี
- ร้องถูกโกงลอตเตอรี่หลายล้านบาท
นายวิศรุต ยอมรับว่า ตนเองได้อาละวาดและทำลายข้าวของในบ้านจริง เพราะไม่พอใจที่แม่ของตนเองมาต่อว่า ว่าตนเองเมาเหล้าแล้วไปโวยวายที่บ้านของคนอื่น ซึ่งตนเองไม่ได้ไปโวยวายตามที่แม่พูด ทำให้ตนเองเกิดความไม่พอใจ และไม่ว่าใครจะพูดอะไรแม่ก็เชื่อคนอื่นหมด แต่ไม่เชื่อลูกคนตนเอง ทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงเกิดการโต้เถียงก่อนจะทำลายข้าวของภายในบ้าน ส่วนเรื่องยาเสพติด ก็ยอมรับว่าเคยเสพแต่เลิกมานานแล้ว อุปกรณ์การเสพที่เจ้าหน้าที่พบในห้องนอน ก็เป็นของภรรยาที่เลิกรากันไปแล้ว
ด้านนางเครือวัลย์ กิจโป้ง อายุ 56 ปี แม่ของนายวิศรุต กล่าวว่า ตนเองต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัวมานานหลายปีแล้ว โดยเฉพาะเวลาที่ลูกชายเมา ก็มักจะอาละวาดทำลายข้าวของ ล่าสุดก็ข่มขู่เอาชีวิตแม่ จนต้องหนีไปนอนบ้านญาติ เพราะกลัวว่าลูกชายจะฆ่า เพราะจิตใจลูกชายเป็นคนโหดร้าย ที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุก็แจ้งผู้นำชุมชนมาโดยตลอด ผู้นำชุมชนก็เข้ามาพูดคุย ลูกชายก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก แต่พอเวลาผ่านไปก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เวลาที่อยากดื่มเหล้าก็บังคับให้แม่ไปซื้อมาให้ หากไม่มีเงินก็บังคับให้ไปหยิบยืมจากร้านค้ามาให้ดื่ม เมื่อขัดใจก็จะโมโหร้าย ข่มขู่แม่ต่างๆ นาๆ จนแม่หวาดระแวง บางวันลูกนอนเล่นเกมอยู่ในบ้าน เงินหมดก็บังคับให้แม่ไปเติมเงินให้ ครั้งหนึ่งเคยโมโหให้แม่จนถึงขั้นบีบคอแม่ โชคดีที่เพื่อนบ้านไปช่วยไว้ทัน ก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยมีครอบครัว มีลูก 1 คน ก็ต้องแยกทางกันเพราะมีปากเสียงกันบ่อย จนภรรยาต้องเลิกราไปและเอาลูกไปอยู่ด้วย ยังไม่นับเรื่องของมีค่าในบ้านที่ลูกชายนำไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อเหล้า และยาเสพติดมาเสพ จนถูกจับตัวส่งไปบำบัดมาแล้ว สุดท้ายก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ทำให้แม่ทุกข์ใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะพึ่งใคร หากเป็นไปได้ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปบำบัดให้หายขาด เพราะตอนนี้ยอมรับว่าหวดกลัวจนไม่กล้ามาอยู่บ้าน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองขอนแก่น ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนายวิศรุต โดยกำชับว่าไม่ให้ก่อเหตุดังกล่าวอีก ซึ่งนายวิศรุตก็รับปากว่าจะไม่ทำ และได้นัดให้ผู้นำชุมชนพานายวิศรุตไปทำประวัติเพื่อจะนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป
เรื่องโดย กฤศเมธ โลโห | ภาพโดย กฤศเมธ โลโห