ตำรวจเข้าควบคุมตัว เยาวชนอายุ 14 ปี ก่อเหตุลักทรัพย์ขโมยทองคำ ก่อนจะนำไปขายร้านทอง แล้วนำเงินไปซื้อยาเสพติดเสพและนำไปจำหน่าย พบประวัติมีนิสัยชอบขโมยมาแล้วหลายครั้ง
นี่เป็นจังหวะที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง บันทึกภาพขณะที่เข้าจับกุม เยาวชนชายอายุ 14 ปี ได้ที่ทุ่งนาภายในหมู่บ้าน บ้านหนองแวง ตำบลบ้านเหล่า อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น ขณะกำลังรับจ้างเกี่ยวข้าว ซึ่งเยาวชนดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลักทรัพย์สร้อยคอมือทองคำ น้ำหนัก 1 บาท และเงินสด จำนวน 4,000 บาท เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยหลังจากผู้เสียหายได้ไปแจ้งความ แล้วตำรวจสืบจนทราบว่า เยาวชนอายุ 14 ปี เป็นผู้ก่อเหตุลงมือ จากภาพกล้องวงจรปิดขณะที่ก่อเหตุ และภาพวงจรปิดขณะที่ผู้ต้องหานำสร้อยข้อมือที่ขโมยมา ไปเปลี่ยนสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง และแหวนทองคำหนัก 1 สลึง และส่วนต่างเปลี่ยนเป็นเงิน จำนวน 4,000 บาท ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดบ้านฝาง ตำรวจได้ติดตามออกจับกุม จนสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่กับญาติ
จากการสอบปากคำผู้ต้องหา โดยพันตำรวจเอก อิทธิพล เนตรไธสงค์ ผู้กำกับ สภ.บ้านฝาง บอกว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคนลักทรัพย์สร้อยข้อมือไปจริง จากนั้นก็นำไปเปลี่ยนเป็นสร้อยคอและแหวน เพื่อทำลายหลักฐานที่เป็นของกลาง หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้นำเงินสดที่ขโมยมาไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และไปเช่ารีสอร์ตแห่งหนึ่งเพื่อหลบซ่อนตัว จนกระทั่งเงินสดที่ขโมยมาได้นั้นหมดลง ก็นำทองคำที่ได้มาไปขายให้กับร้านทองที่ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมืองขอนแก่น และไปอาศัยนอนตามกระท่อมนาของชาวบ้าน จนกระทั่งคิดว่าตำรวจไม่ตามตัวแล้ว จึงไปอยู่กับญาติ แต่ในที่สุดตำรวจก็ติดตามตัวจนสามารถจับกุมได้
และจากการตรวจค้นขณะจับกุม พบยาบ้า จำนวน 243 เม็ด ในกระเป๋ากางเกงที่สวมใส่อยู่ ตำรวจจึงคุมตัวไปตรวจปัสสาวะ พบว่าเป็นสีม่วงอีกด้วย และจากการตรวจค้นประวัติ ผู้ต้องหาเยาวชนรายนี้ยังก่อเหตุลักทรัพย์ชาวบ้านมาหลายครั้งในหลายพื้นที่ ที่ผ่านมาก็มีการจับได้ แต่ไม่ได้ดำเนินคดีเพราะเห็นว่าเป็นเด็ก จึงว่ากล่าวตักเตือนไป เพราะสงสารเนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน ต้องอาศัยอยู่กับยายที่ต้องทำงานหนักในการหาเลี้ยง
ตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และข้อหามียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และเตรียมส่งตัวฝากขังที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่น ต่อไป