วันอังคาร ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 19.23 น.
กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (สำนักงานใหญ่)เรียกเงินคงเหลือคืน งบประมาณ หมวดเงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการจัดการหนี้ของเกษตรกรและเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ 2564 ทำให้อนาคตการลงพื้นที่ มีปัญหาในด้านระดับปฏิบัติการ โอกาสทำให้เกษตรกร ไม่สามารถเข้าถึง การดำเนินการด้านฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ของกองทุนดังกล่าว
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ที่ ห้องประชุมแก่นขาม ชั้น 2 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดขอนแก่น ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 8/2564 โดยมีดร.วิญญู สะตะ ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 3 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร,น.ส.อภิญญาอุทัยแสน หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนา เกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่อนุกรรมการและเลขานุการในที่ประชุม และคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดขอนแก่น ร่วมประชุมพร้อมเพียง
จากการที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กฟก.0100/ว 3243 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เรื่อง ขอให้ชะลอการใช้งบประมาณในหมวดการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการจัดการหนี้ของเกษตรกร และเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกร และให้โอนเงินส่วนที่เหลือกลับสำนักงานใหญ่
เรียน ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขาภูมิภาค 1-4 และหัวหน้าสำนักงานสาขาทุกจังหวัด
ด้วยคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มีมติในคราวการประชุมครั้งที่ 39/ 2564 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ดังนี้
1.)รับทราบรายละเอียดค่าใช้จ่ายและงบประมาณคงเหลือ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 2.)ให้ชะลอการใช้งบประมาณในหมวดเงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการจัดการหนี้ของเกษตรกร เงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และงบลงทุน(การจัดหาครุภัณฑ์ยานพาหนะขนส่ง/การก่อสร้างอาคารสำนักงานสาขาจังหวัด)ไว้ก่อน 3.) ให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยสำนักบริหารจัดทำรายละเอียดงบประมาณตามความความเห็น และข้อสังเกตของคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ในการประชุมครั้งต่อไป
ในรายการนี้ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ขอให้สำนักงานสาขาจังหวัดทุกจังหวัดระงับการใช้จ่ายงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ในหมวดเงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการจัดการหนี้ของเกษตรกร เงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และงบลงทุน อนึ่งไม่ควรก่อภาระผูกพันงบประมาณข้ามปี เช่น การย้ายอาคารสำนักงาน หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆมากกว่ากรอบของงบประมาณที่เคยได้รับ โดยให้โอนเงินคืนสำนักงานใหญ่ และรายงานจำนวนเงินโอนคืนทาง Email: accfrd@ gmail.com ภายในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ตามภารกิจงานที่ได้รับ(รายละเอียดตามเอกสารแนบ)จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการใน นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
เกี่ยวกับ บันทึกข้อความของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ด่วนที่สุดในเรื่องนี้ นายประดิษฐ์ สิงสง อนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าการที่สำนักงานใหญ่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เรียกเงินคงเหลือคืน งบประมาณ หมวดเงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการจัดการหนี้ของเกษตรกรและเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ 2564 ทำให้ การลงพื้นที่การอุทธรณ์การขึ้นทะเบียนหนี้และการอุทธรณ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร ตลอดจนการเจรจาหนี้สหกรณ์ระดับอำเภอ พร้อมด้วยการลงพื้นที่ตามสัญญาเงินกู้ยืม และชี้แจงเอกสารการเบิกจ่ายเงินกู้ยืม อีกทั้งการลงพื้นที่โครงการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และการลงพื้นที่โครงการติดตามและตรวจเยี่ยมเกษตรกรที่ได้รับการชำระหนี้แทนในรายที่ผิดนัดชำระ (ขั้นเร่งด่วน) มีปัญหาในด้านระดับปฏิบัติการ โอกาสทำให้เกษตรกร ไม่สามารถเข้าถึง การดำเนินการด้านฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ของกองทุนดังกล่าว
นายประดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า เป็นความเห็นของคณะกรรมการส่วนหนึ่งที่เขามองว่าการลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการฯร่วมกับสำนักงานในกรณีที่ทางสำนักงานตอบแทนเป็นค่าพาหนะซึ่งดูแล้ว ในบางครั้งนี้เป็นการจำกัดจำเขี่ยเกินไปหรือเปล่าที่จะดูพิกัดพิกัดตาม GPS ซึ่งมันจะไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะกว่าจะหาพื้นที่พิกัด แหล่งพักพิงของเกษตรกร พบต้องขับรถวนเวียนไปมากลายรอบจนเจอ ในส่วนผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ นั้นค่าตอบแทนมันไม่เพียงพอ กับการที่จะจ่ายเป็นค่าน้ำมันให้กับทางอนุกรรมการฯ จึงเห็นควรว่าให้ทางสำนักงานฯกฟก. สาขาจังหวัดขอนแก่น ลองหาวิธีการที่จะดูแลช่วยเหลือแก้ไขในส่วนนี้ให้เหมาะสมและไม่เดือดร้อนผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เกินไป
เพราะว่าในการเข้ามาทำหน้าที่อนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นจิตอาสาที่จะเข้ามาช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง แต่ ในสถานการณ์โควิคที่เป็นอยู่ในช่วงนี้ รายได้ ก็ไม่ค่อยมีทั้งเกษตรกร และตัวของอนุกรรมการเอง ดังนั้นการที่ กฟผ.(สำนักงานใหญ่) ดึงคืน เงินงบประมาณ ส่วนนี้กลับไป มันจะทำให้ผลกระทบ ตกไปสู่ทั้งพี่น้องเกษตรกร และตัวอนุกรรมการณสิ้นเชิง เพราะการลงพื้นที่พบเกษตรกร ในแต่ละครั้ง ไหนจะต้องเติมน้ำมันรถ ของตัวเองไหนจะค่ากินค่าอยู่ ในจะต้องสละเวลาจากงานประจำ มาทำหน้าที่จิตอาสาพบเกษตรกร จึงอยากฝากให้ บอร์ดใหญ่ กลับไปพิจารณาหามาตรการรองรับในเรื่องนี้ด้วย
นายประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนรายละเอียดในการโอนเงินคงเหลือคืนสำนักงานใหญ่ งบประมาณหมวดเงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการจัดการหนี้ของเกษตรกรและเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ 2561 ของสำนักงานสาขาจังหวัดขอนแก่น รวมโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบ 657,600.00บาท ใช้จ่ายจริง 130,032.00 บาท คงเหลือโอนคืนสำนักงานใหญ่ 527,568.00 บาท โดยโอนเงินคืนเข้าบัญชีสำนักงานใหญ่ ธนาคาร ธกส.ชื่อบัญชีกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เลขที่บัญชี 01-058-2-16661-5
ด้านนายสุรสิทธิ์ เคนพรม หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่อนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าจากการที่ สนง.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ส่วนกลาง ที่มีหนังสือให้มีการชะลอ ในการใช้จ่ายงบประมาณ ในความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ ในส่วนนี้คิดว่าในเรื่องของชะลองบลงทุนใน และการที่จะก่อหนี้ผูกพัน ในเรื่องดังกล่าวนี้พอที่จะรับได้ เพราะมันมีกรอบเวลา ที่จะใช้จ่าย เพราะมันเลยระยะ การใช้จ่ายในปีงบประมาณ ซึ่งจะนำเงินมาใช้ไม่ได้ ในส่วนของงบสนับสนุนกิจกรรมโครงการของกองทุนฟื้นฟูฯในการที่จะลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร ตอนนี้ทางส่วนกลางควรจะให้ทางสำนักงานจังหวัดฯนี้ จัดทำแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 กันยายน ควรจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า ที่จะเป็นการตอบโจทย์ในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร จึงเป็นข้อเสนอที่จะให้ทาง คณะกรรมการ กฟก.กลาง ควรพิจารณาเรื่องนี้ด้วยและการทบทวนนี่คือสิ่งที่นำเสนอ
ส่วนดร.วิญญู สะตะ ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 3 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวว่า เมื่อมีงบประมาณมา ทางสำนักงาน กฟก.สาขา นั้นๆมีภารกิจที่จะต้องใช้ ต้องมีแผนมีการทำงานที่ต้องใช้ให้ทัน กับปีงบประมาณนั้นๆ เมื่อไม่ได้ใช้ ทางราชการตามปีงบประมาณ เขาก็ต้องดึงกลับเป็นธรรมดา เพราะฉนั้น ทางสำนักงานฯจะต้องรีบเร่งรีบดำเนินการ เพราะต้องเร่งดำเนินการในการใช้งบประมาณให้เสร็จสิ้นภายก่อนก่อนปีงบประมาณ หรือก่อนที่งบประมาณจะถูกดึงกลับ ส่วนการที่ผ่านมา เราใช้วิธีการสร้างภาระผูกพันในปีงบประมาณต่อไป แต่ว่าส่วนใหญ่จะถูกดึงกลับ เพราะต้องไปทำเรื่องขอใช้งบประมาณใหม่ เป็นกรอบ งบประมาณ ของปี 2565 ดังนั้น เรื่องที่สำคัญคือ สำนักงานสาขาจังหวัดหรือผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวข้อง ถ้ามีงบประมาณมาปุ๊บต้องรีบใช้ให้มันเป็นไปตามกรอบตามระยะเวลาที่กำหนด.