เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงรายงานแผนและผลการปฏิบัติการฝนหลวงเป็นประจำทุกวัน โดยได้รับความร่วมมือกับกองทัพอากาศและกองทัพบกสนับสนุนอากาศยานและกำลังพล ซึ่งมีหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย จำนวน 13 หน่วยฯ โดยมีการปฏิบัติงานทุกวัน ไม่มีวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อช่วยเหลือสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่การเกษตร การบรรเทาไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนการยับยั้งบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บ ขณะนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ทางกรมฝนหลวงฯ ได้มีมาตรการอย่างเคร่งครัดในการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงขออยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้งและหมั่นล้างมือเป็นประจำ โดยเมื่อวานนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก ได้มีเป้าหมายเพื่อยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บ จ.ขอนแก่น หลังปฏิบัติการทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณพื้นที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และไม่พบรายงานลูกเห็บตกในพื้นที่ในช่วงเวลาหลังปฏิบัติการ
นายสุรสีห์ กล่าวว่า สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 26 เมษายน 2564 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรของ จ.พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ จันทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้เขื่อน จำนวน 7 แห่ง อ่างเก็บน้ำ จำนวน 12 แห่ง ด้านการติดตามสภาพอากาศในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า จากผลการตรวจสภาพอากาศ ยังไม่เข้าเงื่อนไขในการปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากสภาพอากาศมีเมฆปกคลุมเป็นจำนวนมาก หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง13 หน่วยฯ ในช่วงเช้านี้ ยังคงมีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวงก็พร้อมช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทันที
ทั้งนี้เกษตรกร และพี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางการติดต่อของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ทางเพจ Facebook, Instagram, Twitter, Line Official Account หรือโทรศัพท์ 02-109-5100