หนุ่มส่งของท้อใจ จอดรถแวะทานข้าวถูกคนร้ายรื้อค้นพัสดุในกระเป๋าใส่ของ แกะกล่องพัสดุกว่า 10 กล่อง ก่อนเลือกเอาพัสดุลูกค้าไป 1 ชิ้นจนต้องจ่ายเงินรับผิดชอบแทนลูกค้า
12 มิ.ย.2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิรน์ part 3” ซึ่งได้ โพสต์ภาพพนักงานขนส่งบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกคนร้ายแกะกล่องพัสดุที่เตรียมส่งให้กับลูกค้าจนได้รับความเสียหาย และถูกขโมยไป พร้อมข้อความระบุว่า “ไอ้คนจ้องขโมยมันก็เอาทุกรูปแบบ น้อง พนง.มาส่งของ จอดรถแวะกินข้าวกลับมาของที่จะส่งลูกค้าโดนแกะ พิกัด อ.เมือง ต.ในเมือง จ.ขอนเเก่น 40000 หอกาญจณา ติดกลับหอพักบ้าน พ พาน พนง.มาส่งของ
พนักงานบอกว่าสินค้าโดนเเกะดู หน้าจะเป็นหัวขโมย สงสัยจะเเกะดูสินค้ามีค่า ส่งสารพนักงานไม่น่าทํากับน้องเลย ไม่รู้มีสินค้ามีหายบ้างหรือป่าว เห็นน้องบอกว่าจอดรถอยู่หลังร้านก๋วยเตี๋ยวอิ่มอร่อย พิกัดหอกาญจนา เเต่เราก็เเนะนําให้ไปเเจ้งความ เเละขอดูกล้องเเถวนั้น -น้องมาส่งของที่บ้านพี่บ่อยพอดีวันนี้มีสินค้าที่ต้องรับน้องได้โทรมาแจ้งว่ามีสินค้าโดนแกะแต่ไม่เสียหายและโดนทุกกล่องค่ะ”
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปจุดเกิดเหตุ ที่หน้าร้านจำหน่ายอาหารตามสั่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ซ.ถนนกัลปพฤกษ์ ตรงข้ามศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าในซอยเป็นทางแคบไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ มีเพียงบ้านเรือนและร้านค้าซึ่งเป็นชุมชน และปิดเงียบ โดยได้โทรศัพท์สอบถามนายสุริยะ เศษโส อายุ 26 ปี พนักงานส่งของบริษัทเอกชนที่อยู่ในภาพ แต่เนื่องจากเจ้าตัวติดงานต้องส่งพัสดุให้กับลูกค้าจึงไม่สะดวกมาพบกับผู้สื่อข่าว
นายสุริยะ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ตนเองจอดแวะทานข้าว ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก่อนที่จะ ออกมาพบว่า พัสดุของลูกค้าที่จะไปส่ง ซึ่งอยู่ภายในกระเป๋าเก็บพัสดุบนรถจักรยานยนต์ถูกรื้อกระจัดกระจายและถูกฉีกแกะออกจนกล่องเสียหายกว่า 10 กล่อง ถูกคนร้ายขโมยของในกล่องพัสดุไป 1 ชิ้น
“ผมจึงได้โทรศัพท์ไปบอกลูกค้าและรับผิดชอบคืนเงินให้กับลูกค้าแทน เป็นเงิน 137 บาท ซึ่งเป็นพัสดุเก็บเงินปลายทาง ส่วนพัสดุอื่นๆไม่ได้ถูกขโมยไปก็นำส่งให้กับลูกค้าทั้งหมดแล้ว”
นายสุริยะ กล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ตั้งแต่ทำงานมา ซึ่งคาดว่าจะไม่ใช่คนแถวนี้ เพราะหลังเกิดเหตุก็ได้สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าวว่ามีใครพอจะเห็นเหตุการณ์หรือทราบตัวคนเอาไปหรือไม่ ซึ่งไม่มีใครรู้ใครเห็น ทั้งเด็กๆที่เล่นอยู่ใกล้ๆบริเวณเกิดเหตุก็ไม่มีใครทราบ จึงเชื่อว่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งความกับตำรวจ เพราะกลัวว่าจะยุ่งยากเสียเวลางาน อีกทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้มากมายอะไร จึงอยากจะฝากถึงคนที่ก่อเหตุว่า อย่าไปหาทำแบบนี้เพราะคนอื่นเดือดร้อนและทำงานหาเช้ากินค่ำอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก.
