เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวขอนแก่น – หญิงชาวอำเภอพลโร่แจ้งความเอาผิดตำรวจสายตรวจ บุกรุกบ้านยามวิกาล ซ้ำทำท่าเหมือนยัดบางอย่างไว้ใต้ท้องรถ ขณะที่ผู้กำกับการโรงพักพลชี้แจงเป็นการไล่ติดตามผู้ก่อเหตุยิงปืน ซึ่งรถยนต์คล้ายกันจึงลงไปตรวจสอบ
ภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.พล จ.ขอนแก่น บันทึกภาพรถยนต์ของตำรวจ สภ.พล มีตำรวจสายตรวจนั่งอยู่ในรถไม่ทราบจำนวนทั้งด้านหน้าและด้านหลังคนขับ ขับเข้ามาในซอยหน้าบ้านหลังนี้แล้วขับเลยไป ก่อนจะถอยกลับออกมาจอดหน้าบ้านอีกครั้ง แล้วส่องไฟดูสักพัก ก่อนจะถอยรถออกไป แต่ยังถอยไม่พ้นซอยก็ขับเข้ามาอีกครั้ง หลังจากนั้นมีตำรวจนายหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถด้านหลังเปิดประตูขณะที่รถยังจอดไม่สนิท แล้วเดินมุ่งตรงเข้ามาที่รถยนต์เก๋ง สีดำ ของเจ้าของบ้านหลังนี้ จอดอยู่ในรั้วบ้าน ก่อนจะนั่งลงลักษณะที่มือข้างหนึ่งเอื้อมไปใต้ท้องรถแล้วรีบเดินกลับไปขึ้นรถ หลังจากนั้นรถตำรวจคันดังกล่าวได้ขับถอยออกไปจากซอย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว บ้านเลขที่ 192 ม.12 ซอยสาธารณสุข ถนนริมทางรถไฟ บ้านไชยพลสินธุ์ ต.โจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นางสาวกชกร ไชยเสนา อายุ 45 ปี ได้พบกับเจ้าของบ้านพร้อมทนายความ นายปกาญจน์ นพศรี พาเดินดูจุดที่รถจอดและจุดที่รถตำรวจขับมา ก่อนจะมีตำรวจ 1 นายลงมาจากรถแล้วนั่งลงตามภาพวงจรปิด
นางสาวกชกรเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟัง อยากให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส ก่อนจะนำคลิปวงจรปิดที่บันทึกภาพตำรวจสายตรวจรถยนต์ประจำ สภ.พล บุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านในยามวิกาลแล้วมีพฤติกรรมน่าสงสัย ใช้เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ภูเบศ ศรีเปี้ย สว.(สอบสวน) สภ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้ดำเนินคดีต่อตำรวจที่ปรากฏตามภาพในวงจรปิดตามกฎหมาย
ภายหลังเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงรถของนางสาวกชกร มีรถยนต์เก๋งสีดำจอดอยู่ 2 คัน คันแรกจอดใกล้ประตูทางเข้าคือรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส ทะเบียน ขย 8774 ขอนแก่น คันที่สองเป็นรถเก๋งยี่ห้อ BMW
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถบันทึกภาพรถยนต์สายตรวจสภ.พล ผ่านบริเวณประตูบ้านในช่วงเวลา 00.30 น. วันที่ 24 ก.ย. 2565 ซึ่งเมื่อผ่านไปไม่นานก็ถอยรถกลับเพราะซอยดังกล่าวเป็นซอยตัน เมื่อถอยออกมาตรงประตูทางเข้าบ้านก็จอดรถยนต์และส่องไฟฉายเข้ามาบริเวณที่จอดรถ จากนั้นก็ถอยรถออกไปที่ปากซอย ไม่นานก็ขับกลับมาและจอดบนถนนบริเวณทางเข้าบ้าน จากนั้นเวลาประมาณ 00.33 น. วันที่ 24 ก.ย. 2565 ตำรวจสายตรวจซึ่งแต่งเครื่องแบบนั่งบริเวณเบาะหลังของรถยนต์สายตรวจก็เดินลงจากรถ และเดินเข้าไปในลานจอดของประชาชน จากนั้นก็นั่งยองๆ โดยมือข้างขวาคล้ายๆ ตะควานหาสิ่งของ จากนั้นก็เดินขึ้นรถ และถอยรถออกจากซอยไป และในการตรวจจุดที่เกิดเหตุตามวงจรปิดนั้น พนักงานสอบสวนได้ให้พลขับมุดดูสิ่งของแปลกปลอมใต้ท้องรถแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
ภายหลังจากพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความลงพื้นที่เสร็จ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราม สภ.พล ที่เข้าเวรต่อจากชุดเมื่อคืน เดินทางมาพบกับเจ้าของบ้านและพยายามชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ หลังได้รับแจ้งว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีเหตุยิงปืนอยู่ใกล้บริเวณนี้ และมือปืนหลบหนี คาดว่ามาตามเส้นทางนี้ หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่มาตรวจสอบเมื่อไม่พบก็เดินทางกลับไปตรวจสอบจุดอื่น
นางสาวกชกรเปิดเผยว่า ช่วงกลางวันวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ช่วงเย็นขับรถออกไปกินข้าวกับเพื่อน กลับเข้าบ้านมาพักผ่อนช่วง 5 ทุ่มก็เข้านอนตามปกติ กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 24 กันยายน ลูกสะใภ้มาบอกว่าเมื่อคืนตำรวจเข้ามาในบ้าน จึงเปิดวงจรปิดดูก็พบตำรวจขับรถสายตรวจมาจอดที่ประตูทางเข้าบ้าน และมีตำรวจสายตรวจเดินเข้ามาในบ้านท่าทางมีพิรุธ เพราะคิดว่าตำรวจไม่น่าจะถือวิสาสะที่คิดว่าแต่งเครื่องแบบตำรวจแล้วจะเดินเข้าบ้านประชาชนในยามวิกาลแบบนี้ก็ได้
เชื่อว่าคงไม่ใช่เรื่องปกติ จึงบันทึกภาพจากวงจรปิดนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีต่อตำรวจสายตรวจ สภ.พล ที่บุกรุกเข้าพื้นที่บ้านในยามวิกาลครั้งนี้ตามกฎหมาย แต่ตัวเองไม่เก่งกฎหมาย จึงได้ปรึกษากับพี่ชายที่เป็นทนายความให้พาเข้าแจ้งความ
“ฝากถึงนายตำรวจผู้ใหญ่ว่าไม่ต้องให้สายตรวจมาขอโทษ เพราะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และตำรวจทุกนายรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก ถ้ามองว่าปฏิบัติหน้าที่แล้วต้องบุกรุกบ้านประชาชนในยามวิกาลเช่นนี้หรือ เพราะเราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย จะบุกรุกบ้านเราไม่ได้ ขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีต่อตำรวจสายตรวจรายนี้ให้ถึงที่สุด”
ทางด้าน พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า อยากอธิบายว่าไม่ใช่จู่ๆ ตำรวจจะบุกรุกบ้านใครก็ได้ แต่เนื่องจากคืนวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เวลา 23.43 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่รับแจ้งเหตุ มีชายวัยรุ่นเอาอาวุธปืนไปข่มขู่คู่อริที่ร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าว จนทราบว่ามีคนมาก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่กันในร้านจริง คนก่อเหตุ ทราบเพียงชื่อเล่นว่ายีน ขับขี่รถยนต์เก๋งสีดำ ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีออกจากร้านไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงออกตามหาตัวนายยีน โดยขับขี่เข้าไปในซอยดังกล่าวเพื่อหาตัวนายยีน
กระทั่งพบรถเก๋งสีดำจอดเรียงกันอยู่ 2 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน ลักษณะคล้ายที่จอดรถของหอพัก บ้านเช่า และประตูทางเข้าไม่ได้ปิด ตำรวจสายตรวจจึงลงจากรถ เข้าไปจับดูท่อไอเสียว่าร้อนหรือไม่ เมื่อจับแล้วไม่ร้อนก็กลับออกไป
พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์กล่าวอีกว่า ทั้งหมดคือความจริงที่จะบอกประชาชนให้ทราบว่า ตำรวจปฏิบัติหน้าที่จริง ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งใคร แต่ถ้าอธิบายความจริงแล้ว เจ้าของบ้านยังรับไม่ได้ ประสงค์จะดำเนินคดีตามกฎหมายก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการของกฎหมายให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ เป็นการบุกรุกหรือไม่ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ผิดว่ากันไปตามผิด แต่ต้องมีความเป็นธรรมด้วย