สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น (สศท.4) ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนของสินค้าเกษตรทางเลือกที่มีอนาคต (Future Crop) ใน 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ขอนแก่น, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ พบว่ามี 4 สินค้าที่น่าสนใจ ได้แก่ จิ้งหรีด แพะเนื้อ โคขุน และหญ้าเนเปียร์ สามารถเลี้ยงหรือปลูกเสริมทดแทนข้าว ยางพารา และมันสำปะหลังในพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ได้เป็นอย่างดี
จิ้งหรีด มีต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 276 บาท/ตร.ม. ในระยะเวลา 1 ปี เลี้ยงได้ 6-7 รุ่น ให้ผลผลิตประมาณ 7 กิโลกรัม/ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ย 104.06 บาท/กก. ผลตอบแทนเฉลี่ย 701 บาท/ตร.ม. ได้ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) เฉลี่ย 426 บาท/ตร.ม. หรือ 63 บาท/กก.
แพะเนื้อ มีต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 3,537 บาท/ตัว โดยแม่แพะ 1 ตัว ให้ผลผลิตลูกแพะ 2 ตัว/รุ่น เกษตรกรจำหน่ายแพะเนื้ออายุเฉลี่ย 7 เดือน ราคาจำหน่าย 3,780 บาท/ตัว หรือ 140 บาท/กก. (น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 27 กก./ตัว) ได้กำไรเฉลี่ย 314 บาท/ตัว
โคขุน มีต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 56,687 บาท/ตัว ราคาจำหน่าย 60,864 บาท/ตัว หรือ 91 บาท/กก. (น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 666 กิโลกรัม/ตัว) ได้กำไร 4,177 บาท/ตัว
หญ้าเนเปียร์ มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 17,899 บาท/ไร่ สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี อายุการเก็บเกี่ยว 5-7 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ย 51,210 บาท/ไร่ ได้กำไรเฉลี่ย 33,311 บาท/ไร่ เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์รายย่อย สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมโคกก่อ จำกัด สหกรณ์ปศุสัตว์ตักสิลา จำกัด และสวนสัตว์ขอนแก่น
สินค้าเกษตรทางเลือกที่มีอนาคตทั้ง 4 ชนิด เกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง สามารถเลี้ยง ปลูกเสริมหรือทดแทนข้าว ยางพารา และมันสำปะหลังในพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ได้ จะสร้างรายได้ดีให้กับเกษตรกร แต่อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลสินค้าแต่ละชนิด พื้นที่ทำการเกษตร ตลาดรองรับ รวมถึงพิจารณาเรื่องน้ำเป็นสำคัญ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-4326-1513 หรืออีเมล [email protected]
สะ-เล-เต