ตำรวจขอนแก่น ควบคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้าขายของชำ นำศพทิ้งอำพรางคดี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหายังคงมีอาการอ่อนแรง หลังจากพยายามกินยาฆ่าตัวตายหนีความผิด พร้อมรับสารภาพว่า ต้องการฆ่าชิงทรัพย์ นำเงินไปเล่นการพนันและใช้หนี้ ลงสนามข่าวนี้กับคุณชนะชัย แก้วผาง
นี่เป็นคำสารภาพของ นายประสิทธิ์ จาลา อายุ 56 ปี ขณะถูกตำรวจ สภ.บ้านฝาง ควบคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุฆ่า นางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี แม่ค้าขายของชำในเมืองขอนแก่น ก่อนนำศพทิ้งอำพรางคดี โดยเขาอ้างว่า ก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ต้องการนำเงินไปเป็นทุนเล่นการพนันและใช้หนี้ กระทั่งมีชาวบ้านพบศพ จึงหลบหนีไปที่อำเภอเมืองตาก พยายามกินยาฆ่าตัวตายหนีความผิด
ช่วงเช้าวันที่ 9 กรกฎาคม นายประสิทธิ์ โทรศัพท์เรียกให้ นางกันนิกา ออกมาหาบริเวณปากซอยศรีจันทร์ 39 ในเมืองขอนแก่น อ้างจะพาไปซื้อเบียร์และสุราราคาถูกมาขาย แล้วทั้งคู่ก็นั่งรถไปด้วยกัน
ผู้เสียชีวิตเป็นคนขับ ส่วนผู้ต้องหานำทางไปย่านชานเมือง ในตำบลบ้านหว้า แล้วจอดรถริมถนน ผู้ต้องหาให้ผู้เสียชีวิตไปนั่งเบาะข้างคนขับ ก่อนผู้ต้องหาจะย้ายมานั่งเบาะหลัง อ้างว่าให้รอรับสินค้า แล้วใช้สายเบลต์รัดคอ นางกันนิกา จนเสียชีวิตช่วงประมาณ 11.00 น. จากนั้นนำโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตโยนทิ้งริมถนน เพื่อทำลายหลักฐาน
จากนั้นเขาก็ขับรถนำศพของ นางกันนิกา ลัดเลาะไปตามเส้นทางหมู่บ้าน ก่อนทิ้งอำพรางคดีอยู่ในป่า พื้นที่ตำบลบ้านเหล่า อำเภอบ้านฝาง แล้วชิงเงินสดกว่า 50,000 บาท พร้อมยันยืนว่า ทำเพียงคนเดียว
จากนั้นเขาขับรถกระบะย้อนกลับมาเส้นทางเดิม ก่อนจอดรถขายให้กับแก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ ที่อยู่บริเวณตึกแถวแห่งหนึ่ง ริมถนนเหล่านาดี ในราคา 102,000 บาท และวันต่อมามีคนขับไปส่งให้นายหน้าสัญชาติกัมพูชา บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว โดยมีผู้ต้องหาร่วมโจรกรรมรถกระบะ รวมผู้ต้องหาด้วย 6 คน ซึ่งถูกจับได้ก่อนหน้านี้ ญาติไม่เชื่อว่าจะมีคนร่วมฆาตกรรมเพียงคนเดียว
สำหรับคดีนี้ตำรวจได้จับกุมแก๊งรับซื้อรถกระบะ ก่อนนำส่งขายชายแดนจังหวัดสระแก้วไปแล้วจำนวน 6 คน รวมถึง นายประสิทธิ์ ด้วย ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร กระทั่ง นายประสิทธิ์ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเก็บรวบรวมหลักฐาน และจะดำเนินคดีหากพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่ม