ย้อนนาทีล่าจับหนุ่มหื่น ขืนใจแม่ชีชราขาพิการ หนีป่วนโรงพักหนองเรือ : สดจากสนามข่าว
บ่ายวันที่ 17 มี.ค. 2564 พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน คุมตัวนายอัจฉริยะ สีทาหรือไอ้โอ๋ อายุ 24 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น หลังก่อเหตุขืนใจหญิงชราพิการที่มาบวชชีพราหมณ์ถือศีลปฏิบัติธรรมอยู่ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว แถมยังหลบหนีออกจากห้องขังโรงพักหนองเรือ จนสร้างความปั่นป่วนไปทั่วอำเภอ
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 13 มี.ค. นางเอ (นามสมมติ) อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการขาขวาขาด ที่บวชชีพราหมณ์และปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ทองคูณ วันวิชิต รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองเรือ ว่าถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ตัดผมสั้น รูปร่างผอม บุกเข้าไปในห้องพัก ซึ่งอยู่ภายในสำนักสงฆ์ ข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ขณะเกิดเหตุไม่กล้าส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เพราะชายคนดังกล่าว ขู่ว่าถ้าร้องจะฆ่าทิ้ง จากนั้นคนร้ายก็ขี่รถยนต์หลบหนีไป
วงจรปิดขณะหลบหนี
ยายเอให้ข้อมูลว่าคนร้ายลักษณะคล้ายกับชายที่มาทำสวน ห่างจากสำนักสงฆ์ไปประมาณ 300 เมตร
หลังรับแจ้ง ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามที่ได้รับเบาะแส พบตัวผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่ภายในรถห่างจากสำนักสงฆ์ประมาณ 1 ก.ม. จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนจนทราบชื่อคือ นายอัจฉริยะ สีทา หรือโอ๋ อายุ 24 ปี ซึ่งขณะถูกควบคุมตัว นายโอ๋ มีอาการคล้ายคนเสพยาเสพติด สอบพบเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดเมื่อปี 2561 เมื่อตำรวจตรวจปัสสาวะก็พบว่ามีสารเสพติด จึงควบคุมตัวดำเนินคดี ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีข่มขืน เนื่องจากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าเจ้าหน้าที่จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากแพทย์ รวมถึงการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อขอหมายจับต่อไป
ถูกจับแค่วันเดียวความบรรลัยก็บังเกิด เมื่อร.ต.อ.ทองคูณเบิกตัวนายโอ๋มาสอบสวนซึ่งในคดีเสพยาเสพติดนั้นพนักงานสอบสวนต้องส่งปัสสาวะของผู้ต้องหาไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ แต่น้ำปัสสาวะมีน้อย จึงให้สิบเวรคุมตัวเข้าห้องควบคุมเพื่อให้ปัสสาวะใส่ขวดเพิ่ม เมื่อปัสสาวะเรียบร้อย สิบเวรก็คุมตัวไปยังห้องพนักงานสอบสวน ระหว่างนั้น นายโอ๋หลอกสิบเวรว่า จะเอาถุงปัสสาวะที่เหลือไปทิ้งขยะหน้าโรงพัก สิบเวรก็เดินตามไป
ตร.ออกค้นหา
จังหวะนั้น นายโอ๋กลับวิ่งหนีออกไปที่ถนนทั้งที่ยังถูกสวมใส่กุญแจมือ จากนั้นได้สลัดกุญแจมือออกข้างหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นเพราะใส่แบบหลวมๆ ก่อนขโมยรถจยย.ฮอนด้า สีแดงขาว ทะเบียน ขกค-498 ขอนแก่น ที่จอดอยู่ริมถนนแต่เสียบกุญแจรถคาไว้ ขี่หลบหนีไปทาง อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ หายตัวไปจนตำรวจถึงกับตั้งรางวัลนำจับให้ 10,000 บาท
กระทั่งตร.ได้เบาะแสว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา มีคนเห็นนายโอ๋เดินในหมู่บ้านดอนหัน โดยไปซื้อบุหรี่มาสูบ โดยเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีลักษณะเปียกน้ำ หรือเพิ่งผ่านการซักมา
19.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวนของ กก.3 บก.ป. ร่วมกับตำรวจ สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น และ ตำรวจ บก.สส.บช.ภ.4 ตามจับกุมตัวนายโอ๋ โดยสามารถตามจับกุมได้ที่กระท่อมกลางป่า ใกล้กับสำนักสงฆ์พร้อมรถจยย.ที่ชิงมาจากชาวบ้าน จากนั้นจึงนำตัวไปสอบปากคำ จนในที่สุดเจ้าตัวก็สารภาพว่า ได้ข่มขืนยายวัย 79 ปี ที่นอนในกระท่อมภายในสวนปฏิบัติธรรมจริง โดยก่อนเกิดเหตุดื่มสุราและเสพยาบ้ามา 2 เม็ด ทำให้มีอารมณ์ จึงก่อเหตุดังกล่าว
คุมทำแผนฯคดีขืนใจ
ไอ้หนุ่มหื่นยังให้การอีกว่า การหลบหนีครั้งนี้ อาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอ จึงเร่งรีบเดินและวิ่งหนีไปขณะที่ยังสวมใส่กุญแจมือ จากนั้นได้ขโมยเอารถจยย.ของชาวบ้านที่เสียบกุญแจ จอดไว้ริมถนนขี่หนีไปหาเพื่อนที่ไร่อ้อยอยู่กับเพื่อนจนค่ำ จึงขี่รถจยย.ตระเวนไปตามที่ต่างๆ ในพื้นที่ เพราะทราบข่าวจากชาวบ้านว่าตำรวจตามจับกุมตัวอยู่ จากนั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านน้าในสวนกระชาย
หาเงินในบ้านได้เพียง 12 บาท แล้วไปซื้อยาเส้นที่ร้านค้าในหมู่บ้าน จำนวน 8 บาท เหลือเงินติดตัว 4 บาท ขณะซื้อยาเส้นชาวบ้านจำได้ จึงรีบขี่รถจยย.หนี มาหลบที่กระท่อมในไร่อ้อย เพื่อหาข้าวกินแต่ไม่มีและหิวจนหลับ ตื่นขึ้นมากำลังจะขี่รถไปหาขอข้าวชาวบ้านกินจึงถูกตำรวจจับกุมตัวได้
ขณะที่ พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 เผยว่านอกจากคดีในพื้นที่แล้ว ยังได้รับการประสานจากตำรวจภูธรนครปฐม ให้ตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหา เพื่อเปรียบเทียบกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนฆ่าผู้สูงอายุในพื้นที่ด้วย ซึ่งหากตรงกันก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก
กินเหล้า เสพยาจนขาดสติ เกิดเหตุทีไรต้องมี 2 อย่างนี้ทุกที
สุพล บุญชื่นชม
จักรพันธ์ นาทันริ
เรื่อง/ภาพ