เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ขอนแก่นเตรียมเพิ่มโรงแรมนีโอเป็นHospitelแห่งใหม่กลางเมืองไม่ไกลโรงพยาบาลหลัก หลังยอดป่วยเพิ่มต่อเนื่อง ย้ำชุมชนโดยรอบเห็นด้วย มั่นใจมาตรฐานจัดการดูแลผู้ป่วยไม่มีการกระจายเชื้อแน่นอน คาดเปิดได้ภายใน 13 ส.ค.นี้
สถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หลังจากมีการล็อคดาวน์พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากพื้นที่ส่วนกลาง กลับคืนถิ่นมารักษาที่บ้านเกิด ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีสถิติผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง ยอดแต่ละวันมากกว่า 100 คนขึ้นไป ซึ่งเกินศักยภาพการรักษาของโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม จำเป็นต้องเพิ่ม Hospitel นำผู้ป่วยสีเขียวเข้าสู่ระบบการรักษา ไม่ให้มีการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง
นายแพทย์ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น เปิดเผยว่าสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดขอนแก่น มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนเกินศักยภาพรักษาของโรงพยาบาลหลัก มีผู้ป่วยล้นจำนวนเตียงแล้ว แม้จะเพิ่มเตียงรักษาทั้งของโรงพยาบาลขอนแก่น และศูนย์อนามัยที่ 7 โดยกันพื้นที่บางส่วนเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ไม่เพียงพอรองรับผู้ติดเชื้อ ขณะเดียวกันโรงแรมลาวิลล่าที่ปรับเป็น Hospitel ก็มีผู้ป่วยใกล้ล้นเตียงรักษาแล้ว
ล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น มีแผนเพิ่ม Hospitel เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวเข้าสู่ระบบ โดยนำโรงแรมนีโอ ขอนแก่น ปรับเป็น Hospitel เพราะมีปัจจัยความพร้อมหลายด้านประกอบด้วย เจ้าของโรงแรมยินยอมให้นำโรงแรมนีโอปรับเป็น Hospitel ประการต่อมาโรงแรมแห่งนี้มีจำนวนห้องมากถึง 185 ห้อง ที่สามารถปรับเป็นเตียงรักษาผู้ป่วยได้จำนวนมากในพื้นที่ควบคุมแห่งเดียว
ทั้งนี้จำนวนห้องที่มากถึง 185 ห้องนั้น ถือว่าเหมาะต่อการปรับปรุงเป็น Hospitel เพราะง่ายต่อการบริหารจัดการดูแลรักษาผู้ป่วยของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่จำกัด อีกทั้งโรงแรมแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น สามารถจัดส่งทีมแพทย์เข้าไปติดตามรักษาได้สะดวกกว่าการใช้โรงแรมที่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลหลัก
ประเด็นสำคัญศูนย์อนามัย เทศบาลนครอนแก่น และศูนย์แพทย์ชาตะผดุง ได้จัดประชาพิจารณ์กับชุมชนรอบโรงแรมนีโอ ไปแล้วครั้งแรกเมื่อวันที่ 1สิงหาคม และครั้งล่าสุดเมื่อ 4 สิงหาคม ซึ่งได้เชิญผู้นำชุมชน ตัวแทนครัวเรือนรอบโรงแรม พร้อมด้วยผู้บริหารเทศบาลนครขอนแก่น และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม โดยชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องมี Hospitel เพื่อรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวเข้าสู่ระบบการรักษา ควบคุมการระบาดโรคให้อยู่ในวงจำกัด
ทั้งนี้ผลการประชุมครั้งแรก ที่มีชุมชนรอบโรงแรมนีโอร่วมประชุมทั้งหมด 20 คน ได้ลงนามเห็นด้วยต่อการปรับปรุงโรงแรมนีโอเป็น Hospitel จำนวน 19 คน ไม่เห็นด้วย 1 คน ส่วนการประชาพิจารณ์ล่าสุด ที่ศูนย์แพทย์ชาตะผดุง พร้อมกับจัดทีมอสม.ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นกับชุมชนชัยณรงค์ และชุมชนพระลับ พบว่าเห็นด้วย 100 คน และไม่เห็นด้วย 21 คน
นายแพทย์ชาตรี กล่าวต่อว่าขั้นตอนหลังจากนี้ จะเร่งปรับปรุงโรงแรมนีโอ ให้เหมาะสมต่อการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาทิ ทำรั้วกั้นพื้นที่ กั้นห้องแยกเป็นสัดส่วน ทำระบบวีดีโอคอนเฟอร์เลนซ์ ปรับปรุงระบบน้ำเสีย กำจัดขยะ พร้อมทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้าไปดูแล จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทุกชั้น ให้ได้มาตรฐาน Hospitel หลังจากนั้นจะมีคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ คาดว่าจะเริ่มนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวเข้าสู่ระบบการรักษาที่ Hospitel โรงแรมนีโอ เบื้องต้นได้ประมาณ 13 สิงหาคมนี้
อยากให้ชุมชนรอบโรงแรม Hospitel มั่นใจว่า คณะกรรมการโรคติดต่อมีระบบกำกับดูแลที่ได้มาตรฐาน ไม่มีการเล็ดลอดผู้ติดเชื้อโควิดออกสู่ชุมชนโดยเด็ดขาด เพราะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลทุกชั้น ไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยออกนอกพื้นที่การรักษา ทั้งมีระบบการจัดการที่ดี การติดตามรักษาจากทีมแพทย์ ขณะเดียวกันความจำเป็นที่ผู้ติดเชื้อมีสูงขึ้นทุกวันจนเกินศักยภาพการรักษา จำเป็นต้องมี Hospitel มาดูแลผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาที่ดี ซึ่งหากปล่อยให้ผู้ติดเชื้อรักษาตัวเองที่บ้าน อาจมีความเสี่ยงการแพร่เชื้อและควบคุมโรคลำบาก
ขณะนี้อำเภอเมืองขอนแก่น มี Hospitel แล้วจำนวน 4 แห่งประกอบด้วย โรงแรมลาวิลล่า ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลขอนแก่น, โรงแรมโฆษะ และโรงแรมไอโฮเท็ล ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลราชพฤกษ์, โรงแรมกรีนโฮเต็ล ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น และล่าสุดโรงแรมนีโอ กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง