วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
ขอนแก่น
  • ขอนแก่น
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • ขอนแก่น
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
ขอนแก่น
No Result
View All Result
Home ข่าว

มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ เปิดรายงานนักโทษไทยถูกบังคับให้ผลิตอวนภายใต้การถูกข่มขู่

ขอนแก่น by ขอนแก่น
4 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
158
0
100
SHARES
199
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ เปิดรายงานผู้ต้องขังในไทยถูกบังคับให้ผลิตอวนให้บริษัทเอกชนภายใต้การถูกข่มขู่ว่าจะมีการลงโทษ ซึ่งรวมไปถึงการทุบตีและการปล่อยตัวออกจากคุกช้าลง

23 ธ.ค.2564 วันนี้ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ (Thomson Reuters Foundation) เผยแพร่รายงานพิเศษในชื่อ ‘EXCLUSIVE – Jails in Thailand force prisoners to make fishing nets under threat of violence’ หรือ ‘นักโทษไทยถูกบังคับให้ผลิตอวนภายใต้การถูกข่มขู่ว่าจะถูกทำร้าย’ เขียนโดย นันท์ชนก วงษ์สมุทร์ (Nanchanok Wongsamuth) ซึ่งเจ้าตัวแปลลงเฟซบุ๊กส่วนตัวในลักษณะสาธารณะด้วยดังนี้

ผู้ต้องขังในประเทศไทยถูกบังคับให้ผลิตอวนให้บริษัทเอกชนภายใต้การถูกข่มขู่ว่าจะมีการลงโทษ ซึ่งรวมไปถึงการทุบตีและการปล่อยตัวออกจากคุกช้าลง

เอกสารที่ได้รับภายใต้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ แสดงให้เห็นว่าเรือนจำทั่วประเทศใช้ผู้ต้องขังให้ทำงานภายใต้สัญญาจ้างที่มีมูลค่าสูงระหว่างเรือนจำกับผู้ผลิต ซึ่งรวมไปถึงบริษัทแห่งหนึ่งที่ส่งออกอวนไปยังสหรัฐอเมริกา

อดีตผู้ต้องขังกล่าวกับ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ ว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำขู่ว่าจะทุบตีด้วยกระบอง ไม่ให้อาบน้ำ หรือไม่ให้เลื่อนขั้นให้เป็นนักโทษชั้นดี ซึ่งจะส่งผลต่อการถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเร็วขึ้น หากผลิตไม่ได้ตามเป้าที่กำหนด

แม้ว่าจะเป็นงานที่ต้องทำ แต่ผู้ต้องขังเหล่านั้นบอกว่าได้รับค่าจ้างเพียงเศษเสี้ยวเดียวของค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศ และบางคนไม่ได้รับค่าจ้างเลย

“สัปดาห์หนึ่งต้องได้ห้าอัน… (ผู้คุม) พูดว่า ถ้าทำไม่เสร็จ จะโดนทำโทษ” อดีตผู้ต้องขังที่เรือนจำกลางสุรินทร์ ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์

“ตอนนั้นบ่ายสอง…แล้วไม่เสร็จ เขาเลยบอกให้หยุด แล้วเอาไปลงโทษ ผมโดนนอนตากแดดแล้วคลุกดิน” ต๊ะ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อปีที่แล้วหลังจากติดคุกสองปี และขอให้ระบุเพียงชื่อเล่น กล่าว

กรมราชทัณฑ์ไม่ได้ตอบรับคำขอสัมภาษณ์ในวันที่บทความถูกเผยแพร่

ต๊ะบอกว่าเขาได้รับค่าจ้างสามบาทต่อชิ้น รายได้ขั้นต่ำของไทยอยู่ระหว่าง 313-336 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด

ผู้ต้องขังส่วนใหญ่กล่าวกับ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ ว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างประมาณ 30 บาทต่อเดือน แต่บางคนบอกว่าไม่ได้ค่าจ้างเลย

คำขู่

ไทยมีจำนวนผู้ต้องขังประมาณ 282,000 คน ในเรือนจำ 143 แห่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังจากคดียาเสพติด

รายงานจากสหพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล หรือ FIDH เผยว่า ไทยประสบกับปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก และไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล

กรมราชทัณฑ์ระบุในวิดีโอโปรโมทโครงการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง ว่าโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ต้องขังมีงานทำหลังจากได้รับการปล่อยตัว

แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนอย่าง FIDH บอกว่าโครงการดังกล่าวมีการเอารัดเอาเปรียบผู้ต้องขัง โดยมีการจ่ายค่าจ้างที่ต่ำ สภาพการทำงานไม่ดี และมีการลงโทษผู้ต้องขังหากผลิตสินค้าไม่ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้

งานส่วนใหญ่เป็นงานที่ใช้แรงงาน ซึ่งมีตั้งแต่การพับถุงกระดาษให้ห้างสรรพสินค้า และการผลิตเสื้อผ้า

อดีตผู้ต้องขังที่ให้สัมภาษณ์ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ กล่าวว่า การถักอวนเป็นงานที่หนัก ทำให้เป็นแผลที่นิ้วเนื่องจากเส้นใยมีความคม

พวกเขากล่าวว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ต้องทำงาน นอกจากจะมีเส้นสายกับกับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ จ่ายเงินใต้โต๊ะ หรือจ่ายเงินให้ผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ทำงานแทน

เจ้าหน้าที่กฎหมายอาวุโสรายหนึ่งกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติป้องกันและปราบกรามการค้ามนุษย์ของไทย หากงานนั้นทำไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทเอกชน แต่ต้องมีการหาข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

“ผู้ต้องขังเหล่านี้(ถูกบังคับให้ทำงานโดย)ไม่สมัครใจ และอยู่ในสภาวะที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะจะโดนทำร้ายร่างกาย” ประวิทย์ ร้อยแก้ว อัยการ และรองอธิบดีสำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว

อวนที่ส่งออก

มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ ได้ส่งคำขอข้อมูลข่าวสารไปยังเรือนจำ 142 แห่ง โดยมี 54 แห่งที่เปิดเผยสัญญาจ้างกับบริษัทหรือบุคคลเพื่อผลิตอวน

เรือนจำอีก 30 แห่งได้เปิดเผยสัญญาจ้างกับบริษัทเพื่อผลิตสินค้าประเภทอื่น ในขณะที่เรือนจำที่เหลือไม่ได้ตอบรับหรือระบุว่าไม่มีการใช้แรงงานผู้ต้องขัง

เรือนจำส่วนใหญ่ที่เปิดเผยสัญญาจ้าง ได้ปิดชื่อบริษัทและผู้ว่าจ้าง โดยอ้างถึงคำสั่งจากกรมราชทัณฑ์ แต่ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ ได้รายชื่อผู้ว่าจ้างบางรายหลังจากที่ยื่นอุทธรณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

หนึ่งในผู้ว่าจ้างคือบริษัทที่ผลิตอวนที่ใหญ่ที่สุดของไทยที่ชื่อ ขอนแก่นแหอวน ซึ่งรายงานจาก Maia Research ระบุว่าปีที่แล้วบริษัทส่งออกอวนจำนวน 2,364 ตัน มูลค่าประมาณ $12 ล้าน (404.18 ล้านบาท) ไปยังสหรัฐฯ

จดหมายจากขอนแก่นแหอวนฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทได้ขอให้เรือนจำอย่างน้อยหนึ่งแห่งไม่เปิดเผยสัญญาจ้างของบริษัทภายใต้คำขอข้อมูลข่าวสาร

บริษัทปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ กล่าวว่า กระทรวง “มีความกังวลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่มีการใช้แรงงานผู้ต้องขังในไทยผลิตอวนให้บริษัทเอกชน” และพระราชบัญญัติภาษีของสหรัฐไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าสินค้าที่ผลิตโดยแรงงานผู้ต้องขังหรือแรงงานบังคับ

“เราพิจารณาข้อมูลทุกประเภทในการพัฒนารายการสินค้าที่มีการใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับ” ตัวแทนจากกระทรวงระบุผ่านอีเมล โดยอ้างอิงถึงรายการสินค้าที่เชื่อว่าผลิตโดยมีการใช้แรงงานดังกล่าว ที่มีการเผยแพร่ทุกสองปี

“นั่นรวมไปถึงข้อมูลที่รวบรวมจากงานวิจัย การทำข่าวสืบสวนสอบสวน หรือโดยวิธีอื่น”

การตรวจสอบ

เป็นเวลาหลายปีที่ไทยได้รับแรงกดดันให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารทะเลมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมไปถึงปัญหาด้านการค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงาน และความรุนแรงบนเรือประมงและในโรงงานแปรรูป

ในปี 2557 รัฐบาลได้เสนอให้มีการส่งผู้ต้องขังที่ยิมยอมและเหลือโทษจำคุกน้อยกว่าหนึ่งปี ให้ทำงานบนเรือประมงเพื่อทุเลาปัญหาการขาดแคลนแรงงานและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์

แต่แผนดังกล่าวถูกยกเลิกหลังจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรด้านสิทธิแรงงาน และในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไทยมีการปรับปรุงการจัดการปัญหาแรงงานทาสยุคใหม่

ในรายงานประจำปีฉบับล่าสุด สหรัฐฯ ระบุว่าไทยมีความพยายามอย่างยิ่งในการกำจัดการค้ามนุษย์ รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือกับภาคประชาสังคม ทว่าการทุจริตโดยเจ้าหน้าที่รัฐยังคงบ่อนทำลายความพยายามในการป้องกันการค้ามนุษย์

การลงโทษ

ผู้ต้องขังถูกบังคับให้ทำงานเป็นเวลานานนับศตวรรษ ตั้งแต่การขุดทางน้ำในศตวรรษที่ 18 ที่ประเทศอังกฤษ จนถึงการผลิตอาวุธในสถานกักกันของสหภาพโซเวียต หรือถูกบังคับให้ทำเหมืองและผลิตสินค้าต่าง ๆ ในปัจจุบัน

นักโทษราว 560,000 คนเป็นเหยื่อของการใช้แรงงานบังคับเพื่อประโยชน์ของบุคคลหรือบริษัทเอกชนในปี 2559 ซึ่งเป็นสถิติที่ใหม่ที่สุดจากองค์กรต่อต้านการใช้แรงงานทาส Alliance 8.7

แนวปฏิบัติขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ที่รู้จักกันในนาม “ข้อกำหนดเนลสัน แมนเดลา” เรียกร้องให้รัฐสมาชิกจัดให้มี “ระบบจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานของผู้ต้องขังอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม”

ที่เรือนจำกลางยะลาทางตอนใต้ของไทย อดีตผู้ต้องขังสองคนที่ได้รับการปล่อยตัวปีนี้กล่าวว่า ผู้ต้องขังหลายร้อยคนต้องผลิตอวนประมาณหกชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์

ทั้งคู่ไม่เคยถูกทำโทษโดยตรง แต่บอกว่าเคยเห็นผู้ต้องขังคนอื่นถูกลงโทษทางร่างกาย

“เคยเห็นเพื่อนโดนทำโทษทุกวัน ตามที่เขาแจ้งมา ไม่ให้มีเจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ต้องขัง แต่ในความเป็นจริงมันมี แต่ในเรือนจำไม่มีคนตรวจสอบ” อดีตผู้ต้องขังคนหนึ่งกล่าว

“เขาจะเอาไม้เบสบอลยกขึ้นให้พ้นหัวแล้วทุบลงมาที่หลัง แล้วเอาไปแยกขัง แล้วช่วงนั้นงดเยี่ยมเพราะกลัวผู้ต้องขังแจ้งไปทางญาติ”

‘อำนาจที่เหนือกว่า’

ไม่มีผู้ต้องขังรายใดที่ให้สัมภาษณ์ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ กลับไปทำอวนอีกหลังจากได้รับการปล่อยตัว

ปภพ เสียมหาญ ทนายความที่เชี่ยวชาญด้านสิทธิแรงงาน กล่าวว่า การบังคับผู้ต้องขังให้ผลิตสินค้าเพื่อบริษัทเอกชนอาจเป็นการละเมิดกฎหมายค้ามนุษย์ของไทย ซึ่งระบุการบังคับใช้แรงงานเป็นความผิด

“พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีอำนาจเหนือผู้ต้องขัง ซึ่งอยู่ในสถานะที่ปฏิเสธยาก” เขากล่าว

แอนเดรีย จอร์เจ็ตตา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของสหพันธ์เพื่อมนุษยชนสากล เรียกร้องให้รัฐบาลไทยตรวจสอบข้อกล่าวหาดังกล่าว

เขาบอกว่าข้อค้นพบของ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ เกี่ยวกับค่าจ้างที่ต่ำและการทำโทษในกรณีที่ไม่สามารถผลิตได้ตามเป้านั้น ตรงกับงานวิจัยของสหพันธ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรสิทธิมนุษยชน 192 แห่ง

“ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงแนวปฏิบัติที่ละเมิดมาตรฐานสิทธิมนุษยชนนานาชาติหลายฉบับและอาจเป็นการบังคับใช้แรงงาน” จอร์เจ็ตตา กล่าว

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สหประชาชาติ ระบุว่า การตรวจสอบประเมินยังไม่พบว่าข้อปฏิบัติในเรือนจำไทยละเมิดภาระผูกพันของประเทศภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานบังตับ

อนุสัญญาดังกล่าวระบุว่า การทำงานในเรือนจำไม่ถือว่าเป็นการบังคับใช้แรงงาน ตราบใดก็ตามที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ต้องขังไม่ได้ถูกควบคุมโดยบริษัทเอกชน

‘งานที่เลวร้ายที่สุด’

อดีตผู้ต้องขังทุกคนบอกว่าเคยทำงานในเรือนจำ แต่มีผู้ต้องขังสามคนที่บอกว่า พวกเขารู้จักผู้ต้องขังคนอื่นที่เรือนจำกลางขอนแก่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยที่เคยทำงานในโรงงานของขอนแก่นแหอวน ซึ่งเป็นบริษัทที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ

ผู้ต้องขังสองคนที่เคยอยู่เรือนจำกลางขอนแก่นกล่าวว่า เคยผลิตอวนให้ขอนแก่นแหอวน โดยจำชื่อบริษัทได้จากใบเสร็จที่ถูกส่งไปยังเรือนจำ และจากกระดาษที่อยู่ด้านในถุงที่บรรจุอวนที่ถูกส่งมาที่เรือนจำ

“ถ้าไม่เสร็จจะทำโทษ ต้องถอดเสื้อไปกลิ้งหน้าถนนในเรือนจำ ไม่งั้นจะโดนไม้กระบองตี” อดีตผู้ต้องขังที่เคยผลิตอวนให้ขอนแก่นแหอวนและบริษัทอื่นในปี 2562 กล่าว

“เขาก็จะพูดว่า ถ้ามึงไม่เสร็จ จะโดนกู” เขากล่าว โดยอ้างอิงถึงคำพูดผู้คุม

อดีตผู้ต้องขังบางคนบอกว่าผู้คุมได้รับประโยชน์ทางการเงินจากงานที่พวกเขาถูกบังคับให้ทำ

สัญญาจ้างส่วนใหญ่ที่ มูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์ ได้รับไม่ได้ระบุว่าเงินจะถูกแบ่งอย่างไร โดยมีการระบุเพียงแค่จำนวนอวน ค่าจ้างทั้งหมด และวันกำหนดส่งงาน

แต่สัญญาจ้างสามฉบับมีการระบุว่าเงินจะถูกแบ่งระหว่างผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่เรือนจำ โดยสัญญาฉบับหนึ่งที่มีการลงนามในปี 2563 กับเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษระบุว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำจะได้รับเงิน 15% ของกำไรสุทธิของเรือนจำ

เพชรติดคุกที่เรือนจำในจังหวัดสงขลา ทางตอนใต้ของไทยในปี 2556 เป็นเวลาหกปี

ในระหว่างนั้น เขาถูกบังคับให้ผลิตอวนภายใต้การขู่ว่าจะถูกทำโทษ เจ้าหน้าที่เรือนจำไม่ได้บอกชื่อบริษัท แต่เพชรบอกว่าเขาเห็นโลโก้บริษัทขอนแก่นแหอวนในถุงที่บรรจุอวนที่ถูกนำมาส่งให้ผู้ต้องขัง

เพชรบอกว่า ในเรือนจำมีกฎว่าเจ้าหน้าที่ต้องหนีบสมุดไว้ใต้รักแร้ในขณะที่ตีผู้ต้องขัง โดยสมุดจะต้องไม่หล่น แต่เพชรบอกว่าไม่มีใครทำตามกฎนี้ และเขาเห็นผู้ต้องขังคนอื่นถูกเตะและตีเวลาที่ไม่สามารถผลิตได้ตามเป้าในแต่ละวัน

“เหนื่อยจะตาย” ชายวัย 27 ปี ซึ่งขอให้ระบุเพียงชื่อเล่น กล่าว “แต่คนข้างในรู้หมดว่าอวนเป็นตัวกินเงิน”

“นิ้วจะแหกหมดเลย ทรมาน เย็บอวน…อวนลำบากสุดแล้ว”

หมายเหตุ : เวลา 23.03 น. วันที่ 23 ธ.ค.64 ประชาไทดำเนินการปรับเพิ่มข้อมูล

Tags: newsขอนแก่นข่าวจังหวัด
Previous Post

เกาะกูด นำทีมชาย! ขอนแก่น เชือด โคราช-นครนนท์ เบียด 3-2

Next Post

“อีสานล้านนา” โชว์ “ไก่ลุงตู่” สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เชิญพวกวิจารณ์แหกตาดู

ขอนแก่น

ขอนแก่น

พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์สิรินธรเน่ สุดเท่เหรียญทองแรกมวยโอลิมปิก

Next Post
564000012967001.jpg

“อีสานล้านนา” โชว์ “ไก่ลุงตู่” สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เชิญพวกวิจารณ์แหกตาดู

บทความ แนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยอุดรฯ ทลายแก๊งเงินกู้โหด “แก๊งบังโก้” รีดร้อยละ 340/ปี แค่ 2 ปีเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้าน

ตร.ภาค5รวบหนุ่มแสบคดีฉ้อโกง5หมายจับคาบ้านพักเชียงใหม่-พบประวัติหลอกลวงโชกโชนผู้เสียหายยาวเป็นหางว่าว

จนท.รุดเก็บยาผิวขาว-ปัสสาวะส่งตรวจ แม่ยันลูกสาวไม่เคยยุ่งยาเสพติด เครียดหวั่นชวดเรียนต่อเภสัชฯ

ประกาศเจตนารมณ์ “คนขอนแก่นไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”

ชาวเปือยน้อยนับร้อยบุกสหกรณ์ฯ ขอเงินฌาปนกิจคืน หลังเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินถูกคุมตัวดำเนินคดี

ผู้ว่าฯ ขอนแก่นสั่งตรวจสอบสหกรณ์ฯ 189 แห่งทั้งจังหวัด หลังที่เปือยน้อยโกงเงินสมาชิกไปกว่า 10 ล้านบาท

ห่วง “เอลนีโญ” กระทบขอนแก่นแล้งหนัก ชูฝายแกนดินเหนียวสร้างมั่นคงจัดเก็บน้ำ

เมียโร่แจ้งจับผัวขี้ยาบังคับหลับนอนสนองความใคร่ชายอื่น ขอเลิกขู่ปล่อยคลิปประจาน

เปิดเวทีแนะนำโครงการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ระยะที่ 2

สถานีขนส่งผู้โดยสารโคราชแน่น ชาวอีสานแห่กลับบ้านเลือกตั้ง ส.ส. คึกคัก

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนถ่ายสินค้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การฆ่าสัตว์ การติดตั้งประปาสายหลัก การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเคมีภัณฑ์ การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริการติดตั้งประปา บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.ขอนแก่น เขต 1 สพป.ขอนแก่น เขต 2 สพป.ขอนแก่น เขต 3 สพป.ขอนแก่น เขต 4 สพป.ขอนแก่น เขต 5 สพม.เขต 25 สมาคม สำนักงานจัดการเดินทาง หน่วยงานราชการ อบต. อาหาร เอสเอ็มอี แฟรนไชส์ โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา ขอนแก่น



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!