วันที่ 23 มี.ค. 2564 เวลา 20:31 น.
ขอนแก่น-ชาวบ้านทั่วภาคอีสานถูกหลอกชื้อขายรถรวมตัวกันเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมให้ติดตาม”ศรชัย”มาดำเนินคดีหลังสูญเงินไปกว่า 20 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่น นายสุรศักดิ์ ถาวรกุล อายุ 46 ปี ชาวบ้าน บ.ท่าสะอาด ม.7 ต.คำสร้างเที่ยง อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้เสียหายจากทั้ง อุดรธานี ,อำนาจเจริญ ,กาฬสินธุ์ และ ขอนแก่นรวมกว่า 20 คน นำเอกสารหลักฐานเป็นหนังสือสัญญาชื้อขายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และหนังสือสัญญาจะชื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำการชื้อขายรถ เดินทางเข้าร้องเรียเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ถูกนายศรชัย แก้วจันทร์ ข้าราชการ ประจำ อบต.แห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม หลอกให้ชื้อขายรถยนต์, รถจักรยานยนต์, รถไถ และรถบรรทุก 10 ล้อ รวมหลายมูลค่าความเสียหายเกือบ 20 ล้านบาท
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ครอบครัวได้ชื้อรถยนต์กระบะ 4 ประตูในราคากว่า 800,000 บาท เมื่อประมาณปี 2563 แต่พอส่งงวดได้ประมาณ 5-6 งวด ก็มาเจอสถานการณ์โควิดระบาด ทำให้ส่งค่างวดไม่ไหว จึงต้องการจะปล่อยรถ ด้วยการขายดาวน์และให้ผู้ที่ต้องการจะส่งงวดนำไปส่งต่อ ไม่นานก็มีนายหน้าติดต่อเข้ามาว่ามีผู้ที่ต้องการจะชื้อรถคันนี้ โดยอ้างว่าจะส่งงวดรถที่เหลือต่อให้ หากส่งงวดหมดแล้วค่อยกลับมาทำสัญญาโอน
“จึงตอบตกลงและนัดทำสัญญา ส่งต่อรถยนต์ให้กับนายหน้า แต่ผ่านไปประมาณ 2-3 เดือนก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทไฟแนนซ์ที่เช่าชื้อรถ โทรศัพท์มาทวงถามว่า ไม่ส่งงวดรถมาหลายเดือนแล้ว เมื่อติดต่อกลับไปยังนายหน้าที่มาชื้อรถยนต์ นายหน้าบอกว่ารถอยู่กับนายศรชัย แต่พอนายหน้าติดต่อไปหานายศรชัย แรกๆ ติดต่อได้ แต่พอทวงถามบ่อยๆ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะนี้เดือดร้อนมาก เพราะต้องมาจ่ายค่างวดรถแทน เพราะไม่อยากให้บริษัทไฟแนนซ์มาทวงถามค่างวดรถ ขณะเดียวกันทราบอีกว่ายังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวอีกหลายคน ทั้งรถไถนา รถจักรยานยนต์ รถปิกอัพ และรถบรรทุก 10 ล้อ บางคนยังคงต้องชำระค่างวดอยู่ ทั้งที่รถได้ขายดาวน์ไปแล้ว ทำให้ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนมาก จึงได้รวมตัวกันมาร้องเรียนเพื่อขอให้ช่วยติดตามนายศรชัย มาไกล่เกลี่ยและชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้าน”นายสุรศักดิ์กล่าว
ขณะที่ นางรัชนีวรรณ พรรณนา ซึ่งเป็นนายหน้าชื้อขายรถ ที่ได้เดินทางมากับชาวบ้านด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตนเองก็ถูกหลอกเช่นเดียวกันกับชาวบ้าน ตนเองและสามี ทำงานเป็นนายหน้าชื้อขายรถ มานานกว่า 10 ปี โดยจะตะเวนไปทั่วภาคอีสาน เพื่อชื้อขายรถที่ชาวบ้านส่งงวดไม่ไหว หรือ อยากจะขายรถต่อ โดยตนเองก็จะเป็นคนกลางไปติดต่อ เพื่อชื้อรถมาขายต่อให้กับผู้ที่ต้องการอยากได้รถแต่ติดแบล็กลิส หรือ เต็นท์รถ
“เมื่อปีที่แล้ว ได้รับการติดต่อจากนายศรชัย ว่า ต้องการชื้อรถลักษณะนี้หลายคัน เพราะมีคนสนใจอยากได้รถ ก็เลยตะเวนหารถให้ จนกระทั่งได้รถของผู้เสียหายทั้งหมดไปให้นายศรชัย จากนั้นไม่นานมาทราบว่ามี 1 ในผู้เสียหายแจ้งจับตนเองและสามี ทำให้ตนเองต้องติดคุกและได้ประกันตัว ส่วนสามียังไม่ได้ประกันตัว เมื่อออกมาก็ได้ติดต่อพูดคุยกับชาวบ้าน จนมาทราบเรื่องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายศรชัยแต่อย่างใด เป็นเพียงนายหน้าชื้อขายรถเท่านั้น จึงได้เดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน”นางรัชนีวรรณกลาว