เผยแพร่:
ปรับปรุง:
ศูนย์ข่าวขอนแก่น – ชาวบ้านกว่า 20 รายหลายจังหวัดภาคอีสานเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น ขอให้ช่วยติดตามจับแก๊งสิบแปดมงกุฎหลอกซื้อดาวน์รถยนต์สัญญาจะผ่อนต่อจนหมดแต่เชิดรถยนต์หนี ทำให้ต้องผ่อนลมกับไฟแนนซ์ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 มี.ค.) นายสุรศักดิ์ ถาวรกุล อายุ 46 ปี ชาวบ้านท่าสะอาด หมู่ที่ 7 ต.คำสร้างเที่ยง อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้เสียหายทั้งจาก จ.อุดรธานี, อำนาจเจริญ, กาฬสินธุ์ และ จ.ขอนแก่น ประมาณ 20 คน นำเอกสารหลักฐานเป็นหนังสือสัญญาชื้อ-ขายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และหนังสือสัญญาจะชื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำการซื้อขายรถ เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อขอความช่วยเหลือ
หลังจากที่ถูกนายศรชัย แก้วจันทร์ ทำงานอยู่ที่ อบต.แห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม หลอกซื้อ-ขายรถจากชาวบ้าน ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถไถ และรถบรรทุก 10 ล้อ รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 20 ล้านบาท
นายสุรศักดิ์ ถาวรกุล ตัวแทนชาวบ้านผู้เสียหาย เล่าว่า ตนซื้อรถยนต์กระบะ 4 ประตู ในราคา 8 แสนกว่าบาท เมื่อประมาณปี 2563 แต่พอส่งงวดได้ประมาณ 5-6 งวดก็มาเจอสถานการณ์โควิดระบาด ทำให้ส่งค่างวดไม่ไหว จึงต้องการจะปล่อยรถ โดยการขายดาวน์และให้ผู้ที่ต้องการจะส่งงวดนำไปส่งต่อ ไม่นานก็มีนายหน้าติดต่อเข้ามาว่ามีผู้ที่ต้องการจะซื้อรถคันนี้
โดยอ้างว่าจะส่งงวดรถที่เหลือต่อให้ หากส่งงวดหมดแล้วค่อยกลับมาทำสัญญาโอน ตนจึงได้ตอบตกลงและนัดทำสัญญาส่งต่อรถยนต์ให้นายหน้า แต่ผ่านไปประมาณ 2-3 เดือนกลับได้รับการติดต่อจากบริษัทไฟแนนซ์ที่ตนเช่าซื้อรถโทรศัพท์มาทวงถามว่าตนเองไม่ส่งงวดรถมาหลายเดือนแล้ว ให้ชำระด่วน ไม่เช่นนั้นจะยึดรถ
ตนก็ได้ติดต่อกลับไปยังนายหน้าที่มาซื้อรถยนต์ ซึ่งนายหน้าบอกว่ารถอยู่กับนายศรชัย แก้วจันทร์ แต่พอนายหน้าติดต่อไปหานายศรชัย แรกๆ ติดต่อได้ แต่พอทวงถามบ่อยๆ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ตนเดือดร้อนมากเพราะต้องจ่ายค่างวดรถแทนทั้งที่รถก็ไม่ได้อยู่กับตนแล้ว ไม่อยากให้บริษัทไฟแนนซ์มาทวงถามค่างวดรถ นอกจากนี้ ตนทราบว่ายังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันกับตนอีกหลายคน ทั้งรถไถนา รถจักรยานยนต์ รถปิกอัพ และรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งบางคนยังคงต้องชำระค่างวดอยู่ทั้งที่รถได้ขายดาวน์ไปแล้ว ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนกันมาก จึงได้รวมตัวกันมาร้องเรียนเพื่อขอให้ช่วยติดตามนายศรชัยมาไกล่เกลี่ยและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ชาวบ้าน
ขณะที่นางรัชนีวรรณ พรรณนา ซึ่งเป็นนายหน้าซื้อขายรถ ก็เดินทางมากับชาวบ้านด้วยเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนเองก็ถูกหลอกเช่นเดียวกันกับชาวบ้าน โดยนางรัชนีวรรณเล่าว่า ตนและสามีทำงานเป็นนายหน้าซื้อขายรถมานานกว่า 10 ปี โดยจะตระเวนไปทั่วภาคอีสานเพื่อซื้อขายรถที่ชาวบ้านส่งงวดไม่ไหว หรืออยากจะขายรถต่อ ตนเองก็จะเป็นคนกลางไปติดต่อเพื่อซื้อรถมาขายต่อให้ผู้ที่ต้องการอยากได้รถแต่ติดแบล็กลิสต์
โดยเมื่อปีที่แล้วได้รับการติดต่อจากนายศรชัยว่าต้องการซื้อรถลักษณะนี้หลายคันเพราะมีคนสนใจอยากได้รถ ตนเองก็เลยตระเวนหารถให้ จนกระทั่งได้รถของผู้เสียหายทั้งหมดไปให้นายศรชัย จากนั้นไม่นานมาทราบว่ามีหนึ่งในผู้เสียหายแจ้งจับตนเองและสามี ทำให้ตนต้องติดคุกและได้ประกันตัว ส่วนสามียังไม่ได้ประกันตัว เมื่อออกมาตนก็ได้ติดต่อพูดคุยกับชาวบ้านจนมาทราบเรื่องทั้งหมด
ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายศรชัยแต่อย่างใด เป็นเพียงนายหน้าซื้อขายรถเท่านั้น จึงได้เดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน