คนร้ายย่องเงียบ บุกงัดสำนักงานบริษัทฯ รับเหมาก่อสร้าง สำนักงาน ตม.ขอนแก่น รื้อค้นหาทรัพย์สินแล้วหลบหนี ตำรวจวางแผนนอนเฝ้าทั้งคืนเชื่อจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ และก็มาตามนัดจริงก่อนถูกรวบตัวพร้อมของกลาง สารภาพสิ้นนำทรัพย์สินไปขาย เพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้าเพื่อเสพ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 10 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดภายในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น ซึ่งตั้ง ริมถนนมิตรภาพ ม.7 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายผอม สูงประมาณ 165-175 ซม. สวมเสื้อเชิตแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีเขียว ใช้เสื้อคลุมหัวแล้วสวมใส่หมวกแก๊ปทับ โดยถือไฟฉายพร้อมสะพายกระเป๋าเดินลัดเลาะหาทางเข้ามาก่อนที่จะประตูสำนักงานบริษัทฯเอกชนรายหนึ่งที่รับจ้างก่อสร้าง อาคารสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น โดยคนร้ายเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินตามโต๊ะทำงานที่อยู่ภายในออฟฟิศ ก่อนจะได้ทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งสามารถบันทึกพฤติการณ์ของคนร้ายเอาไว้ได้ทั้งหมดพร้อมภาพใบหน้าของคนร้ายอย่างชัดเจนเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปหาเบาะแสของคนร้ายและเก็บรวบรวมหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด กระทั่งทราบเบาะแส คนร้ายดังกล่าวคือ นายนพพล ทองสะแก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่103 ม.14 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น และสามารถติดตามจับกุมได้ที่หน้าไซต์งานก่อสร้าง เนื่องจากแนวทางสืบสวนของตำรวจเชื่อว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาก่อนเหตุซ้ำอีก เพราะก่อนหน้านี้ทรัพย์สินในไซต์งานฯได้หายไปต่อเนื่องประมาณ 2 วัน จึงวางแผนซุ่มที่หน้าไซต์งาน
” ชุดสืบสวนได้กระจายกำลังและนอนเฝ้าจุดเกิดเหตุจนกระทั่งพบคนร้ายย้อนกลับมาและเตรียมที่จะลงมือก่อเหตุอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและทำการจับกุม พร้อมทั้งควบคุมตัวไปตรวจค้นภายในห้องพักไม่มีเลขที่บริเวณปากทางเข้าบ้านคำบอน ม.11 ต.โนนท่อน อ.เมือง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุฯ พบของกลางที่ถูกขโมยไป 3 รายการ ประกอบด้วย สปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ RACER จำนวน 1 เครื่อง, สปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ PHILIPS จำนวน 1 เครื่องและ หินเจียร ยี่ห้อ NASH จำนวน 1 เครื่อง ขณะที่จากการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบว่าเป็นสีม่วง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เวฬุวัน ซึ่ง จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุวันที่ 8 จริง และทำครั้งแรก คิดว่าไม่มีคนเฝ้าจึงย้อนมาก่อเหตุซ้ำ ก็ถูกตำรวจจับก่อน โดยทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขายหาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ”
พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า จากการสืบสวนนั้นพบว่าผู้ต้องหามีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดโดยซื้อยาบ้ามาจากนายต้น อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันราคาเม็ดละ 80 บาท ซึ่งทางตำรวจก็จะขยายผลติดตามจับกุมนายต้นมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่นายนพพล ตำรวจไม่ปักใจเชื่อว่าจะก่อเหตุเพียงครั้งเดียว ซึ่งจากพฤติการณ์ของคนร้ายและข้อมูลการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าจะก่อเหตุที่ไซต์ก่อสร้างมาแล้วหลายครั้งก่อนจะย่ามใจย้อนกลับมาก่อเหตุ แต่ก็ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่ โดยนำทรัพย์สินไปฝากไว้กับเพื่อนที่ห้องพักตรงข้ามไซต์งานก่อสร้าง ตม.ขอนแก่น ทั้งปั๊มน้ำ เครื่องเชื่อมเหล็กและอุปกรณ์เครื่องใช้อื่นๆ โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเอาผิด หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด