“บิ๊กปั๊ด” จัดหนัก “หลงจู๊ชาย” ราชาบ่อนภาคตะวันออก สั่ง “ผู้ช่วยรอย-รองก้อง”นำหนุมานกองปราบฯร่วมตำรวจภาค 2 จู่โจมสายฟ้าแลบบุกรวบคาคฤหาสน์กลางเมืองระยอง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย คาดรู้ล่วงหน้าจะถูกค้น ตะลึงห้องลับหลังตู้โชว์ แต่กลายเป็นห้องเปล่า รวมทั้งร่องรอยถอดกล้องวงจรปิด เจ้าตัวลั่นถูกกลั่นแกล้งพร้อมสู้คดี แฉเบื้องหลังตรวจค้นจับกุมมาจากการยึดตู้สลอตไฟฟ้า 418 ตู้ ในโกดังเมืองขอนแก่น ขยายผลจนออกหมายจับพร้อมพวกรวม 5 คน บิ๊กปั๊ดสั่งท้องที่ทำเรื่องคดี ส่วนเรื่องฟอกเงินมอบกองปราบฯรับไปทำ
ไม่รอด หลงจู๊ชาย นายบ่อนดังระยองโดนจับ คาคฤหาสน์ในคดีขนตู้สลอตแมชชีนซุกโกดังขอนแก่น เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 11 ก.พ. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ชลบุรี พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภา ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สนับสนุน.บก.ป.นำชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมานกองปราบ” ตำรวจ กก.2.บก.ป. ประสานตำรวจภาค 2 บุกค้นคฤหาสน์กลางเมืองระยองเนื้อที่ 2 ไร่ เลขที่ 158/28 ถนนราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จับกุมนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊ชาย อายุ 56 ปี คนดังเมืองระยองเจ้าของบ้าน ตามหมายศาลแขวงจังหวัดระยอง ลงวันที่ 10 ก.พ.64 ข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตตามแผนยุทธการ สต็อปสลอตแมชชีน
จากการตรวจค้นอย่างละเอียดไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบร่องรอยการถอดกล้องวงจรปิด เข้าใจว่านายสมชายน่าจะรู้ตัวว่าจะถูกค้นเลยสั่งถอดไปก่อน นอกจากนี้ยังพบห้องลับชั้นล่าง ซ่อนอยู่หลังตู้โชว์ติดผนังเป็นห้องโล่งขนาด 4×4 เมตร โดยนายสมชายเป็นผู้นำตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน จากนั้น พล.ต.ท.รอย สั่งให้คุมตัวนายสมชาย มาที่ บก.ภ.จ.ระยอง เพื่อสอบปากคำและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด มี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และคณะที่บินด่วนจากกรุงเทพฯ มารอสอบปากคำอยู่ก่อนหน้า ขณะที่นายสมชายมีสีหน้านิ่งเฉย บอกผู้สื่อข่าวว่าปฏิเสธทุกข้อหาและถูกกลั่นแกล้ง
ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.กล่าวหลังการสอบปากคำนายสมชายว่า วันนี้ได้เข้าค้นพร้อมกันทั้งหมด 10 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือนายสมชาย จุติกิติ์เดชา เบื้องต้นได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา การสืบสวนสอบสวนแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนคดีให้พื้นที่ดำเนินการ ส่วนคดีฟอกเงินจะให้กองปราบฯทำคดี อยากให้ดูกันยาวๆ ส่วนผู้ที่หลบหนีก็ขอให้เข้ามามอบตัว เบื้องต้นไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับคดีเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ส่วนกรณีเรื่องประกันตัวก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลทางตำรวจก็จะคัดค้านการประกันตัว
ต่อมานายมานิตย์ เล็กโล่ง ทนายความ ได้ขอเข้าพบนายสมชาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนของกองปราบฯ นายมานิตย์เผยว่าจะเข้าช่วยเหลือด้านคดีในฐานะเพื่อน และจะขอประกันในชั้นศาล นายสมชายได้ปฏิเสธทุกข้อหา ขณะที่นายสมชายบอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างถูกคุมมาพิมพ์มือทำประวัติว่าไม่เครียดให้ดำเนินการตามกฎหมายได้เลย
มีรายงานว่าการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ เป็นการจับกุมกลุ่มผู้กระทําความผิดลักลอบขนย้ายตู้เครื่องจักรกลไฟฟ้า (สลอตแมชชีน) โดยผิดกฎหมาย สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 14-19 ม.ค.64 ตํารวจจับกุมกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่ขนย้ายตู้สลอตแมชชีนมาซุกซ่อนไว้ในภาคอีสาน ขยายผลทราบแหล่งซุกซ่อนอยู่ที่โกดังไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 6 บ้านโนนสวรรค์ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น ตรวจค้นพบตู้สลอตแมชชีนอยู่ 418 ตู้ สืบสวนพบว่าเป็นการลักลอบขนย้ายของกลุ่มผู้ต้องหาทําธุรกิจเล่นการพนัน เมื่อทราบว่ามีการกวาดล้างการพนันในพื้นที่เกรงจะถูกจับกุม ได้เช่าโกดังใน จ.ขอนเเก่น ก่อนว่าจ้างคนขับรถบรรทุกขนย้ายจาก ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปยังโกดังใน จ.ขอนแก่น นอกจากนี้ยังพบว่า บัญชีธนาคารของกลุ่มผู้ต้องหามีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท ต้องสงสัยว่ายักย้ายถ่ายเทจากเงินที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับจากการเปิดลักลอบเล่นการพนัน พบว่าจะทําธุรกรรมทางการเงินในมูลค่าที่สูงกว่าปกติ
เจ้าหน้าที่ตํารวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับต่อศาลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการลักลอบขนย้ายเครื่องจักรกลไฟฟ้า หรือตู้สลอตแมชชีนโดยผิดกฎหมาย คือ 1.นายสมชาย จุตติ์เดชา หรือหลงจู๊ชาย ตามหมายจับศาลแขวงระยอง ลงวันที่ 10 ก.พ.64 ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” 2.นายน้อย วงศ์นิยม อายุ 74 ปี คนสนิทนายสมชาย ตามหมายจับศาลแขวงระยอง ลงวันที่ 10 ก.พ.64 ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต”
3.น.ส.ฤดี แซ่โง้ว อายุ 57 ปี ลูกพี่ลูกน้องนายสมชาย ตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ลงวันที่ 27 ม.ค. ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยนําพา ช่วยเอาไปเสียซึ่งสิ่งของอันตนรู้ว่าไม่ผ่านการเสียภาษีศุลการกร” 4.นายดํารงค์ แซ่โง้ว อายุ 52 ปี น้องชายนายสมชาย ตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ลงวันที่ 8 ก.พ.64 ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อรับจํานําหรือรับไว้โดยประการใดๆซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิด ซึ่งยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรอย่างถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560
และ 5. น.ส.อลิสา แจ้งสว่าง อายุ 50 ปี ภรรยา นายดำรงค์ ตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ลงวันที่ 8 ก.พ. ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อรับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิด ซึ่งยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรอย่างถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” ก่อนเข้าตรวจค้น 10 จุด ในพื้นที่ จ.ระยอง ในเช้าวันเดียวกัน โดยตรวจยึดสิ่งของที่เป็นพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด 28 รายการ ประกอบด้วยโฉนดที่ดิน 9 ฉบับ สมุดบัญชีธนาคาร 10 เล่ม ตู้สลอต 1 ตู้ เหรียญ 5 ถุง ตู้เซฟ 1 ตู้ โน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหารายอื่นที่กําลังหลบหนี เจ้าหน้าที่ตํารวจจะเร่งจับกุมมาดําเนินคดี การกระทําความผิดโดยการหลีกเลี่ยงภาษีอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัด ให้มีการ เล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นอาจเข้าข่ายเป็นการกระทําความผิดฐานฟอกเงินอีกด้วย เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินหรือบัญชี ธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป
สำหรับเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบขนตู้สลอตไฟฟ้าหลบหนีจากพื้นที่ภาคตะวันออกไปซ่อนไว้ในภาคอีสานแล้ว ยังสืบเนื่องมาจากการลักลอบเปิดบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในจ.ระยอง 2 แห่ง และเป็นต้นตอการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบสอง จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เพิ่มการเข้มงวดกวดขันเรื่องบ่อนการพนัน จนมีการย้ายบิ๊กนายพลตำรวจภาค 2 เข้ากรุ ศปก.ตร.แทบยกภาค เริ่มจาก พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จ.ระยอง พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จ.จันทบุรี พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ ผบก.ภ.จ.ตราด และ พล.ต.ต.ประกาศ พงษ์พานิช ผบก.สส.บช.ภ.2
มีรายงานว่าในเย็นวันเดียวกัน หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.มาตาบพุด คุมตัวนายสมชายขึ้นรถตู้กองปราบฯมายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกที่ศาลแขวงจังหวัดระยอง พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยมีนายมานิตย์ เล็กโล่ง ทนายความยื่นคำร้องต่อศาล ขอประกันตัวในวงเงิน 2 แสนบาท ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาต มีเงื่อนไขใส่กำไลอีเอ็ม โดยนายสมชายกล่าวสั้นๆว่าจบแล้ว ก่อนขึ้นรถแลนครูเซอร์ ป้ายแดง ที่ญาตินำมารับขับออกจากศาลทันที