สาวขอนแก่น ร้องกำนันดัง แก๊งเงินกู้บุกขู่ถึงบ้าน ยกอุปกรณ์ทำมาหากินไปแทนเงินสด สุดท้ายโต้เถียงกันก่อนจะได้พระเครื่องหลวงพ่อคูณไป 3 องค์ ตัดต้นให้ 100 บาท หวั่นไม่ปลอดภัย สุดท้ายพาขอความช่วยเหลือ ปลัดอำเภอ เป็นคนกลางไกล่เกลี่ย
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ภายบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งบันทึกภาพชายฉกรรจ์ 2 คน ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนด์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดที่หน้าบ้าน ก่อนที่จะมีชายในรถ 2 คนเดินเข้ามาในบริเวณบ้าน ซึ่งเป็นบ้านหญิงลูกหนี้รายหนึ่ง ขาดส่งดอกเบี้ยมา 4 วัน
ก่อนจะมีการพูดคุยกันเพื่อทวงหนี้ประมาณ 7,000 กว่าบาท พร้อมทั้งข่มขู่พยายามจะยกร่มซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำมาหากินของลูกหนี้รายนี้ไป โดยบอกว่าจะใช้แทนเงิน 200 บาท เพื่อนำไปลงบัญชีกู้ยืม แต่ฝ่ายลูกไม่พยายามบอกไม่ยอมให้ยก ถ้าจะยกไปต้อง 500 บาท โดยสุดท้าย ชายที่มาทวงหนี้ก็ยกกลับมาคืน แล้วก็มีการโต้เถียงกันระหว่างคนทวงหนี้และลูกหนี้ที่อยู่ในบ้าน แต่สุดท้ายได้พระเครื่องไป 3 องค์ เพื่อนำไปแทนเงินที่มาทวง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 16 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดน.ส.แคท อายุ 30 ปี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจากนายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ประธานกำนันชมรมผู้ใหญ่บ้านอำเภอน้ำพอง กลัวจะได้รับอันตรายถึงทุกคนในครอบครัวซึ่งมีลูกน้อยอีก 2 คนและสามีที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน หวั่นเรื่องความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุการณ์ในคลิปขึ้น
น.ส.แคท บอกว่า เมื่อเดือนที่แล้วตนเองได้ไปกู้เงินรายวันมา 10,000 บาท โดยมีป้าที่รู้จักกันกู้ร่วม ในส่วนของตนเองนั้น ได้จ่ายดอกเบี้ยและตัดต้นมาตลอด วันละ 500 บาท ซึ่งมีคุณป้าซึ่งอยู่ในหมู่บ้านรู้จักกัน มาขอกู้ร่วมด้วยโดยต่างคนต่างค้ำให้กัน แต่คุณป้าที่กู้ร่วมเบี้ยวหนี้ไม่ยอมจ่าย ทำให้ตนเองต้องแบกภาระจ่ายวันละ 500 บาท สุดท้ายหาเงินไม่ทันเพราะมีอาชีพขายกับข้าวในตลาดลูกค้าก็ไม่เยอะเหมือนเดิม
สุดท้ายแบกรับหนี้สินแทนไม่ไหว ทางเจ้าหนี้จึงลดให้เหลือวันละ 200 บาท ซึ่งตนเองก็หามาจ่ายตลอด กระทั่งๆช่วงฝนตก ขายของที่ตลาดไม่ได้ จึงขาดส่งมาประมาณ4 วัน กระทั่งมีรถกระบะมาจอดที่หน้าบ้าน ตามคลิปวงจรปิด แล้วมาโวยวายจะเอาเงินกับสามีและลูก จำนวน200 บาท ซึ่งขณะนั้นสามีไม่มีเงิน จึงตอบไปได้แค่ว่า “ไม่มีๆๆ”
ทางผู้ชาย2คนที่มาทวงหนี้จึงบอกว่าจะยึดร่มที่ตนเองใช้ขายของที่ตลาดนัดทุกวัน ขณะนั้นก็มีการต่อรองกัน โดยตนเองและแฟนบอกว่าจะทำอะไรดูกล้องด้วย กระทั่งชายคนหนึ่งนำเอาร่มกลับมาคืนไว้ที่เดิม และถามหาพระเครื่อง สามีจึงนำมาให้3องค์ แลกกับดอกเบี้ยและตัดต้น 100 บาท ก่อนจะขับรถออกไป
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ตนเองหวั่นว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับครอบครัว เพราะชาย2คน ได้ทวงเงินต่อหน้าลูกวัย 10 ขวบและ4ขวบ มีการสั่งให้พ่อไปเอาเงินกับลูกมาจำนวน 100-200 บาท แต่ไม่มี จากนั้นลูกสาวก็กลัว บอกแม่ว่าให้ไปแจ้งตำรวจ ก่อนจะเดินทางมาเข้าขอความช่วยเหลือกับกำนัน
ซึ่งเงินจำนวน10,000บาทที่กู้ยืมมานั้น ครึ่งหนึ่งเป็นของป้าที่หนีไป ในส่วนของตนเองใช้คืนตลอดเหลือเบ็ดเสร็จตอนนี้จำนวน 7,700 บาท จึงอยากให้ป้ากลับมารับผิดชอบในส่วนของป้าด้วย ขณะนี้ครอบครัวของตนเองเดือดร้อนมากถูกแก๊งทวงหนี้ตามมาทวงที่บ้านทุกวัน
ด้านนายฉัตรชัย ได้ให้คำแนะนำไปบอกว่าเรื่องของหนี้ เป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน ส่วนเรื่องของการไกล่เกลี่ย หากอยากพูดคุยกับเจ้าหนี้และขอประนอมหนี้ก็ให้ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจะได้มีแนวทางการช่วยเหลือ ซึ่งในขณะที่หญิงลูกหนี้เข้าขอความช่วยเหลือกับทางกำนันนั้น น.ส.แคทบอกว่า เมื่อวานได้มีการพูดคุยกันหาทางออก อยากจะขอไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอน้ำพอง และมีการนัดกันในวันนี้ในเวลา 11.00 น.
ต่อมาทั้งคู่เดินทางไปพบกับนายสุริยนต์ ดอนสมจิตร ปลัดอำเภอน้ำพอง เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ ภายในศูนย์ดำรงธรรมอำเภอน้ำพอง แต่ฝ่ายคนทวงหนี้ไม่ได้มาตามที่นัดกัน จึงมีการโทรศัพท์สนทนากันต่อหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อสรุปทางออก ก่อนที่จะสามารถพูดคุยตกลงในเรื่องหนี้สินกันได้ โดย น.ส.แคทลูกหนี้ขอจ่ายให้แบบเป็นรายเดือนแทนรายวัน โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 20 นาที
โดยน.ส.แคท ขอแบ่งจ่ายเงิน 7,700 บาท ในระยะเวลา 3 เดือน เริ่มเดือนหน้าในวันที่ 15 เพราะเงินออกวันที่ 15 ซึ่งทางคนทวงหนี้ก็ได้ตกลงยอมเปลี่ยนให้ บอกว่าเพื่อช่วยเหลือและขอเพียงแค่จ่ายให้ตรงตามที่พูดทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา โดยมีทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมและกำนันตำบลหนองกรุงร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
พร้อมกันนี้สาวลูกหนี้ได้ฝากถึงคุณป้าที่กู้ร่วม ให้กลับมารับผิดชอบเงินในส่วนของตนเองด้วยและอยากให้เป็นอุทาหรณ์การกู้เงินรายวันและการค้ำประกันให้คนอื่น แม้ว่าเราจะเป็นคนค้ำแต่ก็ถือว่าเป็นคนกู้โดยปริยาย ส่วนเรื่องของความไม่ปลอดภัย สาวลูกหนี้รายนี้ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.น้ำพอง ทันที
อย่างไรก็ตามเรื่องเงินกู้นอกระบบนั้น ในพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ปราบปรามและเน้นย้ำนโยบายของ ตร. ในการแก้ปัญหาเรื่องแก๊งเงินกู้นอกระบบ ก่อนหน้านี้มาแล้ว
และจากเหตุการณ์นี้ แสดงให้เห็นว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประสิทธิภาพสามารถป้องปรามไม่ให้แก๊งเงินกู้ทำเกินกว่าเหตุ ถึงขั้นทุบทำลายทรัพย์สินเสียหายหรือทำร้ายร่างกายข่มขู่เอาชีวิต อีกทั้งยังหาทางออกช่วยลูกหนี้ได้