ภูมิภาค
สาวขับเก๋งเสียหลักข้ามเลน ถูกกระบะชนดับคาซาก
วันศุกร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 06.34 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ร.ต.อ.กฤษณพล วัจณะพันธ์พล รองสารวัตรสอบสวนสภ.บางโทรัด ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักขึ้นเกาะกลางยูเทรินข้ามเลนถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนมีผู้เสียชีวิตติดในซากรถ บริเวณจุดกลับรถเอกโฮลดิ้ง กม.ที่ 43 หมู่ที่ 10 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงเดินทางไปในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถกู้ชีพโรงพยาบาลวิภารามสมุทรสาครและเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครพร้อมด้วยอุปกรณ์ตัดถ่าง
เมื่อถึงในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งฮอนด้า HR-V สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน ขย-9731 ขอนแก่น จอดอยู่ในช่องทางด้านขวาขาเข้ากรุงเทพมหานคร สภาพรถได้รับความเสียหายทั้งคันเศษซากของตัวรถและข้าวของเครื่องใช้ตกกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงหนึ่งรายสวมกางเกงยีนสวมเสื้อสีขาวอยู่บริเวณเบาะคนขับติดอยู่ในซากรถเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครจึงใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากตัวรถทราบชื่อต่อมาว่านางสาว ศิริลักษณ์ แก้วไธสงค์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 3 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น และห่างออกไปเล็กน้อยพบรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บฉ-6351 ระนองจอดอยู่ในช่องทางด้านซ้ายสภาพด้านหน้าได้รับความเสียหายกระจกแตกบรรทุกกั้งมาเต็มคันจนกั้งตกกระจัดกระจายเต็มถนน
จากการสอบถามคนขับรถกระบะ บอกว่าตนขับรถบรรทุกกั้งมาจากจังหวัดระนองเพื่อจะไปส่งให้ลูกค้าในเขตลาดกระบังกรุงเทพมหานครโดยใช้เส้นทางพระรามที่2 ช่องทางขวาพอมาถึงในที่เกิดเหตุตนสังเกตเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาในช่องทางขาออกสมุทรสงครามตรงจุดกลับรถแล้วขึ้นมาบริเวณเกาะกลางตนนึกว่าจะพ้นแต่รถคันดังมาด้วยความเร็วจนข้ามมาประสานงากันจนรถของตนเสียหลักหมุนจนมาหยุดในบริเวณดังกล่าว
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุไว้ในเบื้องต้นแล้วให้รถยกดำเนินการเคลื่อนย้ายรถยนต์ทั้ง 2 คันออกจากช่องจราจรและเร่งเก็บเศษซากรถและข้าวของเครื่องใช้ของผู้เสียชีวิตออกไปเก็บรักษาไว้ที่สภ.บางโทรัดและได้เชิญคนขับรถกระบะ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่สภ.บางโทรัด ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนำส่งชันสูตรหาสาเหตุเพิ่มเติมของการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจและจะได้เร่งติดต่อประสานญาติของผู้เสียชีวิตมาสอบถามเพิ่มเติมและรับศพไปประกอบประเพณีตามศาสนาและจะได้ดำเนินการหมายกฎหมายต่อไป.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่