22 ก.ค.64 – นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ขอนแก่น กล่าวภายหลังที่ได้รับการปล่อยตัวคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี ว่าตนได้แถลงต่อศาล และเขียนคำร้องต่อศาลว่าการกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนไม่คลุมเครือ ที่จะเป็นการจำกัดสิทธิ์จนเกินไป ที่จะร้องขอแก้เงื่อนไขในอนาคต คือ เงื่อนไขห้ามกระทำความผิดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์อีก ซึ่งการใช้คำว่า ‘ห้ามทำผิดอีก’ หมายความว่า ศาลได้ตัดสินไปแล้ว ซึ่งที่จริงยังไม่มีการตัดสินหรือไต่สวน ดังนั้นอาจจะต้องแก้ไขในประเด็นนี้ อีกประการหนึ่งคือคำว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นคำที่ไม่ชัดเจน คลุมเครือ โดยตามหลักอ้างอิงจาก กฎหมาย ม.112 เป็นกฎหมายที่กำหนดความผิดเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการ ดังนั้นการตีความคำว่า ‘สถาบันพระมหากษัตริย์’ จะมีความครอบคลุมถึงองค์กรใดบ้าง ซึ่งต้องให้ทางศาลระบุชัดเจนให้อ้างอิงตามกฎหมาย ม.112 ซึ่งในความไม่ชัดเจนนี้อาจจะทำให้ผู้เห็นต่างทางการเมือง ส่งเรื่องยื่นถอนประกันได้
ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้ที่จำเลยถูกกล่าวหา ม.112 จากการไปชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมันนั้น ตนขอบคุณศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ให้การปล่อยตัวชั่วคราว รวมทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มาเป็นนายประกัน สิ่งที่พวกตนจะทำต่อไปคือการต่อสู้คดีความว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดฏฎหมายตามที่ถูกกล่าวหา
สำหรับเงื่อนไข ห้ามกระทำความผิดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์อีก ซึ่งคำว่า อีก มีความหมายว่าได้กระทำผิดไปแล้ว ซึ่งดูเสมือนว่าคดีนี้มีการตัดสินไปแล้ว โดยทางจำเลยมีความไม่สบายใจ จึงมอบหมายให้ทางทนายปรึกษาไปยังศาล จะพอแก้ไขเช่นนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องส่งให้ศาลสูงชี้ว่าจะสมควรมีเงื่อนไขเช่นนี้หรือไม่ เพราะทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีความต้องการจะให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ไม่มีความต้องการเป็นเช่นอื่น ทั้งนี้ศาลนัดพิจารณาคดีอีกทีในวันที่ 11 ต.ค. 2564 เวลา 10.00 น.