ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 พ.ค.2564 ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า หรือ ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธน พรรณนานนท์ ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น นำพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญในคดีฉ้อโกง สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งความจาก น.ส.มาฆพร ก้านพลู อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ม.28 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้เสียหายที่ถูกเจ้ามือหรือเท้าแชร์บ้านภัทร ฉ้อโกงเงินไปรวมกว่า 130,000 บาท ภายหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา (17 พ.ค.) เจ้าตัวพร้อมผู้เสียหายจำนวนหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าไม่เคยทำคดีในลักษณะเช่นนี้มาก่อน จึงไม่สามารถรับแจ้งความได้ โดยในการรับแจ้งความและร่วมพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายใช้เวลานานกว่า 30 นาที โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน หรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใน ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น แต่อย่างใด
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญคดีฉ้อโกง ทำการรับแจ้งความและสอบปากคำผู้เสียหายรายนี้แล้ว ซึ่งหลังจากรับแจ้งความตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว จะทำการสอบปากคำเพิ่มเติมผู้เสียหายรายนี้ เพื่อเอาผิดกับผู้ต้องหาตามที่ระบุ โดยในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียหายมีเอกสารหลักฐานต่างๆ บางส่วน จึงได้ขอเอกสารเพิ่มเติมในการเร่งรัดสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าวนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“การที่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความนั้น อาจจะเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะในเรื่อของเอกสาร หลักฐานที่ผู้เสียหายต้องนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แต่วันนี้ เจ้าหน้าที่และผู้เสียหายได้พูดคุยกันแล้วและเข้าสู่ขั้นตอนของการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าเจ้ามือ หรือเท้าแชร์ในชื้อกลุ่มแชร์บ้านภัทร ตามหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมาแสดงนั้นมีตัวตนจริง ซึ่งจะมอบให้กับชุดสืบสวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ดีขอให้ผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มดังกล่าวฉ้อโกงเงินไป ขอให้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ พบว่าผู้เสียหายจำนวนหนึ่งได้แจ้งความแล้วที่ สน.ราษฎร์บูรณะ และที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะประสานขอเอกสารการแจ้งความเพื่อนำมาประกอบสำนวน เพื่อเอาผิดกับเจ้ามือรายนี้ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงต่อไป” ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าว
ขณะที่ น.ส.มาฆพร กล่าวว่า เจ้ามือที่ฉ้อโกงรายนี้มีผู้เสียหายนับร้อยรายกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ ซึ่งตัวเจ้ามือนั้นเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ที่ตั้งตัวเป็นเจ้ามือและรับเล่นแชร์มาตั้งแต่ปี 2561 ในชื่อ แชร์บ้านภัทร (มาจาก ชื่อ น.ส.ภัทราวดี ที่เป็นเท้าแชร์) โดยได้ชวนเพื่อนๆ เล่นแชร์กันตั้งแต่ต้นปี 2561 ทั้งหมด 2 รูปแบบคือแชร์เงินออมเงินต้น 100,000 บาท และแชร์แจกดอกกองละ 10,000 บาท โดยที่ตนเองนั้นตัดสินใจร่วมเล่นแชร์ กับเท้าแชร์รายนี้ เริ่มจากแชร์เงินออมซึ่งมีผู้ร่วมเล่นด้วยกันทั้งหมด 19 คน โดยตัวเองเป็นคนที่ 15 ที่ต้องจ่ายเงินออมให้กับวงเป็นจำนวนเงินเดือนละ 4,800 บาท เริ่มจ่ายมาตั้งแต่เดือน ก.พ.2561 และหากครบกำหนด 15 เดือนจะได้รับเงินจำนวน 100,000 บาทขณะเดียวกันยังคงเล่นแชร์แจกดอก กองละ 10,000 บาท ซึ่งเท้าแชร์กำหนดว่าจะปันกำไรหรือดอกเบี้ย คือ 5 วันได้รับเงิน 500 บาท 10 วัน ได้รับดอกเบี้ย 1,000 บาท สูงสุด 35 วันได้รับดอกเบี้ย 3,000 บาท แต่เท้าแชร์ก็เชิดเงินและไม่มีการโอนเงินให้มาตั้งแต่ปี 2563 จากนั้นไม่สามารถที่จะติดต่อได้
“ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มารับเรื่องและรับฟังกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และไม่ขอติดใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา เพราะได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วยงานแล้ว ที่ได้ลงมารับเรื่องด้วยตัวเอง ดังนั้นจากนี้ไปคือการให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการส่งมอบเอกสารหลักฐานต่างๆเพื่อเอาผิดกับคนที่กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ และขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายที่กระจายอยู่ทั้งประเทศ ซึ่งนับรวมมูลค่าความเสียหายที่เจ้ามือรายนี้กระทำนับล้านบาทได้ออกมาแสดงตัวและแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มขบวนการดังกล่าวเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย และจะได้ไม่ไปหลอกลวงคนอื่นๆ อีก” หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าว.